สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ว่า สืบเนื่องจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร เพิ่มกำแพงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากทั่วโลกอีก 25% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 มี.ค. นั้น

นายฟรองซัวส์ ฟิลิป-ชองปาญ รมว.อุตสาหกรรมแคนาดา ซึ่งเป็นผู้ส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดในตลาดสหรัฐ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวของสหรัฐ “ไม่มีความเป็นธรรมโดยสิ้นเชิง” ตอนนี้ แคนาดาอยู่ระหว่างปรึกษาหารือกับพันธมิตรนานาประเทศ พร้อมทั้งยืนยันว่า จะมีมาตรการตอบโต้ “ที่ชัดเจนและเท่าเทียม”


ขณะที่นางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งเป็นองค์กรฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า ยุโรป “เสียใจเป็นอย่างยิ่ง” ต่อการที่สหรัฐใช้มาตรการทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้ และจะมีมาตรการตอบโต้ “ตามความเหมาะสม”


ด้านกระทรวงอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐ ด้วยสัดส่วน 11% และ 4% ตามลำดับ อยู่ระหว่างหารือกันเป็นการภายใน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากมาตรการภาษีครั้งใหม่ของสหรัฐให้ได้มากที่สุด.

เครดิตภาพ : AFP