ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับคนไทย ในช่วงเทศกาลแห่งความรัก กับการให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศ ปีนี้ความรักของทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นเพศใด สามารถเปิดเผยตัวตน เป็นที่ยอมรับของสังคม และพัฒนาสู่การสมรสเท่าเทียมได้แล้ว ไทยเราเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าเรื่องสิทธิมนุษยชน ให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศ LGBTQIA+ ทำให้ช่วงนี้คู่รักต่าง ๆ มีโลกเป็นสีชมพู มีการจดทะเบียนสมรสกันอย่างเปิดเผย
สำหรับคนที่กำลังมีความรัก จะทำให้ช่วงวาเลนไทน์ เป็นวาเลนไทน์รักษ์โลกได้อย่างไรบ้าง
1.เลือกดอกไม้ที่ยั่งยืน สรรหาดอกไม้สวยๆ ในท้องถิ่น ที่สร้างรายได้ให้ชุมชน พยายามหลีกเลี่ยงดอกไม้ Import ที่ก่อให้เกิด Carbon Footprint สูง บางท่านอาจจะเลือกกระถางต้นไม้ที่มีดอก หรือใบที่มีสีสันสวยงาม แทนช่อดอกไม้ใช้ครั้งเดียว ต้นไม้นั้นยังช่วยฟอกอากาศ ดูดซับคาร์บอนในระยะยาวได้ด้วย
2.เลือกของขวัญที่เป็น Reuse เราสามารถหาของขวัญต่าง ๆ ที่เป็นสินค้ามือสอง ไม่ต้องผลิตใหม่ จะช่วยลดคาร์บอนจากการผลิตได้
3.เลือกของขวัญที่เป็น Recycle ถึงแม้ของขวัญเหล่านั้นจำเป็นจะต้องผลิตใหม่ แต่ว่ามาจากวัสดุ Recycle เช่นพลาสติก ผ้า ไม้ และอื่น ๆ เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy ตอนนี้สินค้าที่มาจากวัสดุ Recycle มีสวย ๆ ให้เลือกมากมาย และมีดีไซเนอร์รุ่นใหม่หันมาพัฒนา หรือช่วยทำให้สินค้าชุมชน OTOP รักษ์โลกมากขึ้น
4.เลือก Packaging ของของขวัญให้ดี ลดการห่อที่ใช้ครั้งเดียว ที่ต้องฉีกทิ้งเป็นขยะ ถ้า Packaging นำไปใช้ใหม่ ใช้ซ้ำได้จะมีประโยชน์ หรือไม่ห่อได้ แต่สวยแบบ Minimal จะยิ่งดี
5.การเลือกร้านอาหาร ภัตตาคาร ที่รักษ์โลก หรือมองหา Sustainable Chef ที่เขารักษ์โลก ใส่ใจความยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำ ที่มาของวัตถุดิบการเกษตรที่ยั่งยืน เกษตรกรที่ไม่ใช้สารเคมีในแปลงเกษตร ไม่เผา ไม่ตัดไม้ทำลายป่า และมีการใช้น้ำอย่างประหยัด เมนูที่เลือกสรรน่าจะลองเมนูคาร์บอนต่ำ ที่มาจากพืช หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ที่มีคาร์บอนสูง หรืออาจจะเป็นเมนู Vegan อร่อย ๆ เชฟรักษ์โลกนี้จะพยายามดูขนาดในการเสิร์ฟให้พอดี มีการเหลือทิ้งน้อย และเขายังใส่ใจว่าถ้าทิ้งแล้วไปไหน โดยมีการดูแล Food Waste อย่างมีมาตรฐาน นอกจากหาชื่อเชฟรักษ์โลก และร้านอาหารยั่งยืนแล้ว ยังสามารถหาข้อมูลจากบริษัทใน ESG 100 ที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารก็ได้ เพราะเขาจะมีมาตรฐานความยั่งยืนที่ดี
6.การทำอาหารทานเองที่บ้าน ก็ดูใส่ใจ และเพิ่มความโรแมนติกให้คู่รักอีกด้วย ยังสามารถเลือกทำเมนูรักษ์โลกได้เอง และไม่ต้องเดินทางฝ่ารถติดไปไกล ๆ ลด Carbon Footprint ได้
7.การเลือกเครื่องดื่มให้คู่รัก ก็รักษ์โลกได้ น้ำผลไม้ ไวน์ หรือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็พยายามเลือกแหล่งที่มาจากท้องถิ่น สร้างรายได้ให้ชุมชน ไม่ต้องเดินทางมาไกล เพราะจะสร้าง Carbon Footprint มาก แล้วอย่าลืมถ้าจะดื่มจะต้องดื่มให้พอดี ดื่มอย่างมีความรับผิดชอบ เมาแล้วอย่าขับ อาจถูกจับ หรือทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เรียกบริการของ Grab หรือ U Drink I Drive จะปลอดภัยกว่า
8.การเลือกกิจกรรมในวันแห่งความรัก สรรหากิจกรรมสีเขียวอนุรักษ์ธรรมชาติ ส่งเสริมรายได้ให้ชุมชน เช่นชวนกันไปเดินป่า เดินเล่นในสวนสาธารณะ ชวนกันไปเดินสำรวจชุมชน สนับสนุนสินค้าและบริการของชาวบ้าน ไปทำ Workshop ศิลปะ Recycle ไปทำกิจกรรมจิตอาสา ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ปลูกป่า บริการสังคม หรือง่ายๆ ก็แยกขยะที่บ้าน แล้วนำไปขาย อาจจะได้เงินมาเป็นค่าอาหาร และเครื่องดื่มรักษ์โลกได้ด้วย
ทั้ง 8 ข้อนี้ นอกจากจะดีต่อสิ่งแวดล้อม ลด Carbon Footprint แล้ว ยังดีต่อใจ ดีต่อสังคม และที่สำคัญคือดีต่อกระเป๋าตัง ถ้าเลือกให้ดี จะช่วยประหยัดได้มาก เหมาะสมกับยุคสมัย
วิธีคิด “วาเลนไทน์รักษ์โลก” นี้นอกจากจะ “โรแมนติก” แล้ว ยังสะท้อนความใส่ใจของคู่รัก เค้าว่า “คนที่รักษ์โลก มีความรับผิดชอบต่อสังคม จะเป็นคู่รักที่ดี อย่างยั่งยืน”.
