สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ว่า ข้อตกลงสงบศึกที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา หยุดการสู้รบในฉนวนกาซา ที่กินเวลานานกว่า 15 เดือน ได้เป็นส่วนใหญ่ และทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนนักโทษและตัวประกัน ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส

ทว่าความตึงเครียดกลับเพิ่มขึ้น นับตั้งแต่ทรัมป์ยื่นข้อเสนอที่น่าตกใจ ในการให้สหรัฐเข้าควบคุมฉนวนกาซา และอพยพผู้อยู่อาศัยมากกว่า 2 ล้านคน ออกจากดินแดนปาเลสไตน์

ล่าสุด ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะเรียกร้องให้ยุติการหยุดยิง หากตัวประกันชาวอิสราเอลทุกคน ไม่ได้รับการปล่อยตัวภายในเวลาเที่ยงตรงของวันเสาร์นี้

“ถ้าตัวประกันทั้งหมดไม่ถูกส่งตัวกลับอิสราเอล ภายในเวลา 12.00 น. ของวันเสาร์ที่ 15 ก.พ. ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสม ผมจะยกเลิกข้อตกลงหยุดยิง และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามยถากรรม ซึ่งนรกจะแตกอย่างแน่นอน” ทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว พร้อมทั้งเสริมว่า “แล้วฮามาสจะได้รู้ ว่านรกเป็นอย่างไร”

อนึ่ง ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ เกิดขึ้นหลังนายอาบู อูไบดา โฆษกของกองพันเอซเซดีน อัล-กัสซัม ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส กล่าวในแถลงการณ์ว่า การปล่อยตัวประกันครั้งต่อไป ซึ่งมีกำหนดการในวันเสาร์ที่ 15 ก.พ. 2568 จะถูกเลื่อนออกไปจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม

นอกจากนี้ กองพันเอซเซดีน อัล-กัสซัม ยังกล่าวหาว่า อิสราเอลไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้ข้อตกลงสงบศึก และละเมิดการหยุดยิง รวมถึงขัดขวางการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดยกลุ่มฮามาสระบุในแถลงการณ์ฉบับต่อมาว่า พวกเขา “จงใจ” ประกาศเรื่องนี้ล่วงหน้า 5 วัน ก่อนการแลกเปลี่ยนตัวประกันครั้งต่อไป เพื่อทำให้ผู้ไกล่เกลี่ยมีเวลามากพอ ในการกดดันให้อิสราเอลปฏิบัติตามพันธกรณีของตนเอง.

เครดิตภาพ : AFP