ตามที่ในวันนี้ (11 ก.พ. 68) เวลา 14.00 น. คณะเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะนำพยานหลักฐาน พยานเอกสารในคดีค้ามนุษย์ เข้าพบพนักงานอัยการ สำนักงานคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ เพื่อหารือในประเด็นข้อกฎหมายการออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้นำกองกำลัง BGF หรือผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง กองกำลังสำคัญที่ปกครองเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา เนื่องด้วยเป็นกรณีที่กลุ่มผู้ต้องหามีการนำชาวอินเดีย ไปทำการค้ามนุษย์ บังคับทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บ่อนเฮงเชง จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก

สำหรับ “หม่องชิตตู” เดิมเคยเป็นทหารในกองทัพ KNU หรือกองทัพของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง มีเป้าหมายคือปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง ต้องการเขตปกครองตัวเองอย่างอิสระ สู้รบกับกองทัพเมียนมามาโดยตลอด มีการทำงานในเชิงการเมืองและมีกองกำลังติดอาวุธของตัวเอง โดย “ชิต ตู” เป็นคนชนชาติกะเหรี่ยงที่ร่วมกับ KNU มาก่อน

จนกระทั่งปี 2538 เกิดความขัดแย้งในกลุ่มผู้นำกะเหรี่ยง “ชิต ตู” จึงนำพรรคพวกส่วนหนึ่งแยกตัวออกมาตั้งกลุ่ม “D.K.B.A :กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย” แล้วร่วมกับกองทัพเมียนมา (SAC : ตัดมาดอว์) เคยมีข่าวว่าเขานำกำลังโจมตีกะเหรี่ยงที่ค่ายอพยพในปี 2541 เขาแผ่อิทธิพลในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของเมียนมา เขตจังหวัดเมียวดี ติดชายแดนไทย

ปี 2553 หม่องชิตตู่ รับข้อเสนอของกองทัพเมียนมา ตั้งกองกำลัง BGF : Border Guard Force แยกตัวเองออกมาจากกลุ่ม DKBA รับเงินเดือนและสวัสดิการจากกองทัพเมียนมา มีหน้าที่ควบคุมความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน

ปัจจุบัน หม่องชิตตู คุมกองพล 999 ดูแลพื้นที่และผลประโยชน์ ตั้งแต่ เมืองผาอัน ตะเข็บชายแดนประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ ชเวโก๊กโก่ วาเงย์ แม่สลิด เมืองเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก มีกองกำลังรวมกว่า 10,000 นาย ในพื้นที่ต่างๆ กระทั่งเมืองเมียวดี เติบเติบ หลังจากมีทุนจีน หลั่งไหลเข้าไปสร้างเอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์ ศูนย์รวมทั้งกาสิโน สถานบันเทิง ฯลฯ สุดท้ายกลายเป็นศูนย์รวมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ และแหล่งค้ามนุษย์ มีชาวจีนถูกหลอกเข้ามาทำงาน จนทำให้คณะผู้ช่วยรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ต้องบินจากจีนมาดูพื้นที่ด้วยตัวเอง จนทำให้เกิดการปราบปรามครั้งใหญ่.