เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 11 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ได้รับรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า ในวันนี้ เวลา 14.00 น. คณะเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะนำพยานหลักฐาน พยานเอกสารในคดีค้ามนุษย์ เข้าพบพนักงานอัยการ สำนักงานคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ เพื่อหารือในประเด็นข้อกฎหมายการออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้นำกองกำลัง BGF หรือผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง กองกำลังสำคัญที่ปกครองเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ว่าทางรองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีค้ามนุษย์ จะมีความเห็นชอบอย่างไรหรือไม่ เพื่อได้พิจารณาพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีในส่วนของบุคคลที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีความผิดนอกราชอาณาจักร ซึ่งอัยการจะเป็นคนควบคุมการสอบสวน โดยพฤติการณ์ที่ดีเอสไอจะนำหารือกับรองอธิบดีอัยการนั้น เนื่องด้วยเป็นกรณีที่กลุ่มผู้ต้องหามีการนำชาวอินเดียไปทำการค้ามนุษย์ บังคับทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บ่อนเฮงเชง จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก แต่ทางเราได้ช่วยกลับมาได้ จึงทำให้เราต้องพิจารณาดำเนินคดีว่าขบวนการดังกล่าว เกี่ยวข้องกับใครบ้าง
รายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยต่อว่า สำหรับผู้เสียหายของขบวนการดังกล่าว เป็นชาวอินเดียทั้งสิ้น 7 ราย โดยประเทศไทย ถูกใช้เป็นทางผ่านคล้ายเคสของนักแสดงชายชาวจีน “ซิง ซิง” ก่อนหน้านี้ ส่วนจะมีชาวไทยเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ยืนยันว่ามีแน่นอน ประมาณ 2 ราย (โดยมีคนไทยอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งให้บริการจัดทำรีสอร์ททั้งในไทยแต่ใน จ.เมียวดี มีสถานะเป็นกรรมการบริษัท และพนักงานบริษัท) ทั้งนี้ จะมีการเสนอขอออกหมายจับเบื้องต้น 3 ราย ประกอบด้วย 1.พันเอก ซอชิตตู่ (Colonel Saw Chit Thu) หรือพันเอก หม่องชิตตู 2.พันโท โมเต โธน (Lieutenant Colonel Mote Thone) และ 3.พันตรี ทิน วิน Tin Win (Major Tin Win) รวมถึงยังมีในส่วนของเจ้าของบ่อนเฮงเชงด้วย ส่วนเลขคดีพิเศษสำหรับสำนวนดังกล่าวนี้คือ คดีพิเศษที่ 304/2565.