เมื่อวันที่ 10 ก.พ. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่น โดยเฉพาะที่ยังพบปัญหาการเผาในที่โล่ง หรือพื้นที่รกร้าง จนเป็นเหตุเดือดร้อนรำคาญและเสี่ยงเกิดอันตรายกับชีวิตและทรัพย์สินว่า เพื่อควบคุมการเผา กทม.ได้สั่งการให้สำนักงานเขตออกประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ ตามพ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 เพื่อเพิ่มการเอาผิดผู้เป็นเจ้าของพื้นที่ว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ ปล่อยรกร้าง และทำให้มีโอกาสเกิดเพลิงไหม้ เกิดมลพิษทางอากาศ ซึ่งพบมากในเขตลาดกระบัง และฝั่งตะวันออกของกทม.
ทั้งนี้ มอบหมายให้ทุกเขตออกสำรวจพื้นที่ต่อเนื่อง และเก็บข้อมูลจุดเสี่ยง เพื่อแจ้งไปยังเจ้าของให้ปรับปรุงพื้นที่ก่อน หากยังเพิกเฉยปล่อยให้มีการก่อเหตุจะมีบทลงโทษทางกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ ซึ่งเป็นมาตรการที่ต้องเข้มข้นขึ้นจากเดิมที่มีการเอาผิดกับผู้เผาเท่านั้น และใช้ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ ซึ่งมีโทษปรับเพียง 2,000 บาท ทำให้ประชาชนไม่เกรงกลัว ไม่ดูแลพื้นที่รกร้างของตัวเอง จนทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 เพิ่มขึ้น
ส่วนการประกาศกำหนดเขตควบคุมมลพิษ ขณะนี้ได้ทำหนังสือไปยังคณะกรรมการควบคุมมลพิษแห่งชาติแล้ว คาดจะมีการหารือรายละเอียดและใช้เวลา 7-8 เดือนจึงประกาศใช้
นอกจากนี้ เผยถึงมาตรการฝุ่น 11 ข้อ ที่กทม.จะนำเสนอต่อรัฐบาล อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลให้รอบคอบ ก่อนนำเสนอกระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณาส่งต่อรัฐบาล โดยได้พิจารณาเหลือ 10 ข้อ เนื่องจากเรื่องมาตรการเขตมลพิษต่ำ ควบคุมรถเข้าพื้นที่ (LEZ) เป็นเรื่องที่ กทม.ทำอยู่แล้ว
นายชัชชาติ ระบุ กรณีมีข้อเสนอแนะของ สส.กทม. พรรคประชาชน เกี่ยวกับมาตรการฝุ่นว่า ยินดีรับฟังความเห็นทุกฝ่าย เพราะเรื่องฝุ่นไม่ใช่แค่งานท้องถิ่น พร้อมเปิดรับมาร่วมเสนอแนะและร่วมกันทำงานได้ตลอดปี พรรคประชาชนมี สส.เกือบทุกเขตสามารถช่วยผลักดันได้ ส่วนที่ระบุว่าอำนาจผู้ว่าฯ มีจำกัด ขณะนี้มีการเสนอปรับปรุง พ.ร.บ.กรุงเทพมหานคร เพื่อปรับปรุงจุดอ่อน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น.