ทำเอาโซเชียลพร้อมใจกันจับตามองอีกครั้ง หลังปรากฏคลิปผู้ก่อเหตุซึ่งเป็น LGBTQ+ ก่อเหตุใช้น้ำซุปร้อนๆ ราดลงไปที่รุ่นน้องหนุ่ม อีกทั้งยังบังคับกล้อนผม และขู่เอาเงินอีก 5 หมื่นบาท เนื่องจากเหม็นหน้า ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จนกลายเป็นกระแสการรวมตัวของกลุ่ม LGBTQ+ มากกว่า 500 คน ที่บริเวณคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้เคียงมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต จ.ปทุมธานี เพื่อกดดันให้ผู้ก่อเหตุลงมาขอโทษ หลังทำร้ายให้นักศึกษาหนุ่มบาดเจ็บ ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้
จากสุขุมวิท11สู่ตำนาน ‘สาดน้ำร้อนรังสิต’ สรุปที่มาต้นตอทำพี่กะเทยรวมพลังผดุงความยุติธรรม
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 68 มีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก “Bangkok University” ได้ออกมาแถลงการณ์ถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมระบุความว่า “แถลงการณ์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กรณีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยถูกทำร้ายร่างกาย ตามที่ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณชน กรณีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยถูกทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา จนได้รับบาดเจ็บ”
นอกจากนี้ “มหาวิทยาลัยกรุงเทพขอแสดงความห่วงใย ต่อผู้ได้รับผลกระทบ และขอย้ำจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ รวมทั้งถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดวินัยนักศึกษาอย่างร้ายแรง มหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยทันทีที่ทราบเรื่อง และได้ทราบตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมเก็บรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องทุกกรณี”
“ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการปกครอง เพื่อดำเนินการสอบสวน และพิจารณาโทษตามระเบียบ ข้อบังคับทางวินัยของมหาวิทยาลัย ควบคู่ไปกับการให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษตามกฎหมาย นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการดูแล และช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ”
จึงได้ดำเนินมาตรการเยียวยาเร่งด่วน ดังนี้
1. ยกเลิกการเพิกถอนรายวิชา เพื่อให้นักศึกษาผู้ถูกกระทำสามารถเรียนได้ตามปกติ
2. ให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่นักศึกษาและผู้ปกครอง พร้อมประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิด
3. ให้การรักษาพยาบาลโดยทีมแพทย์ และพยาบาลของมหาวิทยาลัย และจัดเตรียมจิตแพทย์/นักจิตวิทยา เพื่อดูแลสภาพจิตใจในกรณีที่นักศึกษาต้องการคำปรึกษา
อย่างไรก็ตาม “มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ยืนยันว่าจะดำเนินมาตรการทั้งหมดด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และเคร่งครัด เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย และความเป็นธรรมภายในสถาบัน พร้อมทั้งยืนหยัดต่อต้านความรุนแรงในทุกรูปแบบ”
