สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า ยูเครนเป็นประเทศที่มีแร่ธาตุหายาก อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลเคียฟจะยอมยกทรัพยากรเหล่านั้นให้แก่ประเทศใด “แบบให้เปล่า” แม้แต่กับประเทศที่ถือเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์


เซเลนสกีกล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้ต้องอยู่ในรูปแบบของ “การลงทุนร่วมกัน” พร้อมทั้งเชิญชวนให้มิตรประเทศเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมแร่ธาตุหายากของยูเครน ซึ่งมีมูลค่า “หลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ” โดยเฉพาะยูเรเนียมและไทเทเนียม ที่ผู้นำยูเครนอ้างว่า “มีมากที่สุดในทวีปยุโรป”


ทั้งนี้ ผู้นำยูเครนยืนยันว่า เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลเคียฟ “ต้องเป็นเจ้าของและเก็บรักษาแร่ธาตุทั้งหมด” เนื่องจากทรัพยากรที่มีค่าเหล่านั้นถือเป็น “หลักประกันด้านความมั่นคง” ให้กับบ้านเมืองได้เช่นกัน และกล่าวด้วยว่า ไม่ต้องการให้ทรัพยากรเหล่านั้นตกไปอยู่ในเมือของรัสเซีย


ท่าทีดังกล่าวของเซเลนสกีเกิดขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า กำลังดำเนินการเรื่องข้อตกลงกับยูเครน โดยที่อีกฝ่ายจะใช้แร่ธาตุหายากและทรัพยากรอื่น “เป็นหลักประกัน” ให้กับสิ่งที่รัฐบาลวอชิงตันจะมอบให้


ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยืนยันว่า มีความพร้อมที่จะเจรจาแบบพบหน้ากับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียด้วย แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดมากนักจนถึงตอนนี้.

เครดิตภาพ : AFP