สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ต้อนรับนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ผู้นำญี่ปุ่น ที่ทำเนียบขาว เมื่อวันศุกร์ โดยอิชิบะนับเป็นผู้นำต่างประเทศคนที่สอง ต่อจากนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ซึ่งได้พบกับทรัมป์ ที่สาบานตนรับตำแหน่งสมัยที่สอง เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา
President Donald J. Trump welcomed Japanese Prime Minister Shigeru Ishiba to the White House today. ???????????????? @JPN_PMO @ShigeruIshiba pic.twitter.com/aYoy45ro4I
— The White House (@WhiteHouse) February 7, 2025
ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศเห็นพ้อง ผนึกกำลังกันต่อสู้กับ “ความก้าวร้าวทางเศรษฐกิจ” ของจีน และร่วมประณาม “กิจกรรมข่มขู่คุกคาม” ของรัฐบาลปักกิ่งในทะเลจีนใต้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้เกาหลีเหนือปลดนิวเคลียร์

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทรัมป์ดูจะพึงพอใจมากที่สุด จากการมาเยือนของผู้นำญี่ปุ่นในครั้งนี้ คือการที่อิชิบะให้คำมั่นว่า จะเพิ่มการลงทุนในอเมริกาอีก 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33.89 ล้านล้านบาท) และญี่ปุ่นจะเพิ่มการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ด้านการป้องกันประเทศจากสหรัฐ ในฐานะประเทศผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดของอเมริกา
แม้ทรัมป์กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยชะลอญี่ปุ่นจากการเผชิญกับกำแพงภาษีของสหรัฐ แต่หากอีกฝ่ายไม่สามารถขับเคลื่อนคำมั่นสัญญาทั้งหมดได้อย่างราบรื่น รัฐบาลโตเกียวยังคงมีสิทธิที่จะเผชิญกับกำแพงภาษี และเน้นย้ำว่า ญี่ปุ่นต้องลดการขาดดุลการค้ากับสหรัฐ “ให้เหลือศูนย์”
ขณะเดียวกัน ทรัมป์กล่าวถึงประเด็นนิปปอน สตีล กับยูเอส สตีล ว่าจะเป็นการที่บริษัทของญี่ปุ่น “เพิ่มการลงทุน” ในยูเอส สตีล “ไม่ใช่การควบรวมกิจการ” ตามที่มีความพยายามก่อนหน้านี้
นอกเหนือจากการหารือและตอบคำถามจากสื่อมวลชนในประเด็นข้อราชการระหว่างประเทศ อิชิบะกล่าวด้วยว่า ก่อนพบกับทรัมป์ เขารู้สึกตื่นเต้นและประหม่ามาก เนื่องจากเมื่อมองจากในโทรทัศน์ ผู้นำสหรัฐดูเป็น “คนน่ากลัว” แต่เมื่อได้พบหน้ากันจริงแล้ว ทรัมป์ “จริงใจ” และเป็นผู้ที่มีบุคลิก “ทรงอำนาจ” ขณะที่ทรัมป์กล่าวชมผู้นำญี่ปุ่นว่า “เป็นบุคคลที่ดูดี”.
เครดิตภาพ : AFP