สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นในขณะที่ความพยายามของทรัมป์ ในการปฏิรูประบบการย้ายถิ่นฐานและการให้สัญชาติในสหรัฐ เผชิญกับอุปสรรคทางกฎหมาย โดยผู้พิพากษาในเมืองซีแอตเทิล กล่าวหาว่า เป็นการดำเนินการที่ “ขัดต่อรัฐธรรมนูญ” ผ่านคำสั่งฝ่ายบริหาร

อนึ่ง คดีความที่รัฐบาลวอชิงตันยื่นฟ้องต่อเมืองชิคาโก และรัฐอิลลินอยส์ มีเป้าหมายเพื่อแบนมาตรการที่ป้องกันไม่ให้ตำรวจจับกุมผู้คนโดยยึดตามสถานะการย้ายถิ่นฐานของพวกเขา และการจำกัดข้อมูลที่แบ่งปันกับรัฐบาลกลาง

นอกจากนี้ คำฟ้องข้างต้นยังกล่าวถึงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติของทรัมป์ ที่ชายแดนทางตอนใต้ของสหรัฐ และคำสั่งฝ่ายบริหารที่เขาลงนาม ซึ่งระบุว่า ผู้อพยพเป็นภัยคุกคามอย่างมีนัยสำคัญ ต่อความมั่นคงแห่งชาติและความปลอดภัยสาธารณะ

“ผู้อพยพบางส่วน หาที่หลบภัยจากการสืบค้นของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลาง ในเมืองที่เรียกว่า เมืองที่พักพิง ซึ่งพวกเขาอาศัยและทำงานอยู่ท่ามกลางชาวอเมริกันผู้บริสุทธิ์ ที่อาจตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมในภายหลัง” คำฟ้องระบุเสริม

สำหรับทรัมป์ ซึ่งให้คำมั่นว่าจะเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวนมาก ให้สัญญามาเป็นเวลานานแล้วว่า จะดำเนินคดีกับรัฐและเมือง ซึ่งเป็นที่พักพิงสำหรับผู้อพยพเหล่านี้ โดยส่วนใหญ่เป็นรัฐของพรรคเดโมแครต.

เครดิตภาพ : AFP