สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ว่า สำนักงานยานยนต์เยอรมนี (เคบีเอ) เปิดเผยว่า เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา มีรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) สัญชาติอเมริกันเพียง 1,277 คันเท่านั้น ที่จดทะเบียนในเยอรมนี ซึ่งลดลงเกือบ 60% เมื่อเทียบเป็นรายปี สวนทางกับการฟื้นตัวของยอดขายรถอีวีโดยรวมในประเทศ
มัสก์จุดชนวนความขัดแย้งด้วยการสนับสนุนพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (เอเอฟดี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวาจัด ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปประเทศในวันที่ 23 ก.พ. นี้ พร้อมทั้งวิจารณ์ผู้นำทางการเมืองของเยอรมนี ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แม้มัสก์ยังไม่แสดงออกถึงการสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อฝ่ายขวาจัดในเยอรมนี แต่คะแนนนิยมของพรรคเอเอฟดี ตามโพลเลือกตั้งสำนักต่าง ๆ ก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ และขึ้นมาอยู่เป็นอันดับ 2 รองจากพรรคประชาธิปไตยคริสเตียนแห่งเยอรมนี (ซีดียู) ซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้าน ณ เวลานี้
นอกจากนั้น มัสก์ยังถูกวิจารณ์กรณีแสดงท่าทางคล้ายท่าคารวะของพรรคนาซีเยอรมัน แม้ภายหลังเจ้าตัวออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่นักเคลื่อนไหวยังคงประท้วงเรื่องนี้ ฉายภาพการชูมือของมัสก์ พร้อมคำว่า “ไฮล์” (Heil) แปลว่า “จงเจริญ” ซึ่งเป็นสรรเสริญฮิตเลอร์ ที่ด้านนอกโรงงานเทสลาใกล้กรุงเบอร์ลิน
ข้อมูลของเคบีเอแสดงให้เห็นด้วยว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนีเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา พุ่งสูงขึ้นกว่า 53% จากปีก่อน อยู่ที่ 34,498 คัน ซึ่งตรงกันข้ามกับยอดขายของเดือนเดียวกันในปี 2567 หลังรัฐบาลประกาศยกเลิกเงินอุดหนุนรถอีวี อย่างไรก็ตาม ตัวเลขในเดือน ม.ค. 2568 ยังค่อนข้าง “ซบเซา”
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าภาคส่วนนี้จะฟื้นตัวในปี 2568 เนื่องจากผู้ผลิตถูกบังคับให้ลดราคารถลง เพื่อเร่งยอดขายให้ได้มากที่สุด เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ของสหภาพยุโรป (อียู) ที่มีความเข้มงวดยิ่งขึ้น.
เครดิตภาพ : AFP
