เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ บช.สอท. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รรท.รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รรท.ผบก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงจับ ผู้หมวดกองร้อยปอยเปต อ้างชื่อตำรวจมุกดาหารวิดีโอคอลหลอกโอนเงิน โดยสามารถจับกุมนายอนุวัต อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 4769/2567 กรณีอ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร โทรศัพท์หลอกผู้เสียหายเมื่อช่วงเดือน ก.ค. 66 ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีค้ายาเสพติด จึงให้โอนเงินมาตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียหายกว่า 151 เคสไอดี รวมมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท โดยเคสใหญ่ๆ เป็นผู้ประกาศข่าวชื่อดัง
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า สามารถจับกุมนายอนุวัต ได้ที่บริเวณค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมือง จ.เชียงราย และเบื้องต้นนายอนุวัต ให้การรับสารภาพว่า เคยเป็นแอดมินเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่ประเทศเพื่อนบ้านเมื่อปี 2566 ก่อนจะกลับมาประเทศไทย และถูกชักชวนให้กลับไปทำเว็บไซต์ไปทางออนไลน์อีกครั้ง แต่เมื่อไปถึงกลับได้รับมอบหมายให้ทำงานในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีทั้งคนไทยและคนจีนเป็นผู้ควบคุม มีบทสคริปต์ที่ใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหาย โดยจะได้รับค่าตอบแทนเดือนละประมาณ 50,000 บาท รวมทั้งได้ส่วนแบ่งอีกร้อยละ 3-5 ของยอดเงินที่หลอกได้ในแต่ละครั้ง ทำให้มีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า นายอนุวัตกลับมาที่ประเทศไทยเพื่อเข้ารับการเกณฑ์ทหาร และถูกจับกุมในที่สุด สำหรับวิธีการหลอกนั้นนายอนุวัต จะอ้างตัวเป็นร้อยตำรวจโทธีระ รองสารวัตรฝ่ายปราบปราม สภ.เมืองมุกดาหาร ซึ่งมีตัวตนอยู่จริงโดยใช้ชื่อดังกล่าวในการหลอกเหยื่อโดยจะใช้วิธีการโทรแบบ 3 สายโดยตัวนายอนุวัตทำหน้าที่อยู่ในสายที่ 2
สำหรับการโทร 3 สายนั้น สายที่ 1 จะทำหน้าที่โทรศัพท์ไปหลอกผู้เสียหายก่อน ชวนผู้เสียหายหลงเชื่อ แล้วโอนสายไปหาสายที่ 2 ให้ปลอบใจ คลายความกังวล ซึ่งจะแต่งตัวเป็นตำรวจ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ก่อนจะส่งไปยังสายที่ 3 เพื่อปิดดีลให้ผู้เสียหายโอนเงิน
ทั้งนี้ตัวนายอนุวัต อยู่ในแก๊ง “พูลิ กาสิโน” ซึ่งได้หลอกผู้เสียหายในหลายรูปแบบ ทั้งหลอกให้หลงรัก หลอกให้กลัว หลอกให้ร่วมลงทุน หลอกไปทำงาน หลอกให้กดลิงก์เพื่อดูดเงิน โดยฐานทัพหลักจะอยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา และจากการตรวจสอบยังไม่พบว่าผู้ต้องหารายนี้มีความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาที่ตำรวจสอบสวนกลางต้องการตัว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, อั้งยี่ ซ่องโจร, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และฟอกเงิน ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
