สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวถึงการที่รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระงับการมอบความสนับสนุนให้แก่ต่างประเทศเป็นเวลา 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่าการรับความสนับสนุนทางทหารของยูเครนจากสหรัฐ “ยังไม่ได้รับผลกระทบ”
อย่างไรก็ตาม เซเนสกียอมรับว่า ในเวลานี้ไม่มีการเจรจากับรัฐบาลวอชิงตัน เกี่ยวกับแนวโน้มของโครงการความช่วยเหลือในอนาคต และยังเร็วเกินไปที่จะคาดเดาเกี่ยวกับเรื่องนี้
Ukraine's Zelenskiy: US military aid not cut, no talks on new packages yet https://t.co/plNySDcR0g
— ST Foreign Desk (@STForeignDesk) February 5, 2025
เมื่อมีการซักถามเกี่ยวกับศักยภาพทางทหารของยูเครนในอนาคต หากไม่ได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐอีกต่อไป เซเลนสกีไม่ปฏิเสธว่า “กองทัพยูเครนจะอ่อนแอมากขึ้น” และ “ไม่มั่นใจ” ว่าทหารยูเครนจะยังคงสามารถรักษาดินแดนที่ยึดครองอยู่เอาไว้ได้หรือไม่
ข้อมูลจากสถาบันการศึกษาสงคราม (ไอเอสดับเบิลยู) ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระทางวิชาการของสหรัฐ ระบุว่า กองทัพรัสเซียสามารถรุกคืบดินแดนในยูเครนได้ 3,985 ตารางกิโลเมตร เมื่อปี 2567 เพิ่มขึ้นมากกว่า 7 เท่า เมื่อเทียบกับสถิติของปี 2566 ส่วนสถิติเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา พบว่า กองทัพรัสเซียสามารถรุกคืบดินแดนในยูเครนได้อีก 430 ตารางกิโลเมตร ตามการเปิดเผยโดยไอเอสดับเบิลยู.
เครดิตภาพ : AFP