เมื่อวันที่ 6 ก.พ. นายศุภกร ขันธเนตร อายุ 25 ปี ชาวอำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ อาชีพขับรถแท็กซี่ เดินทางเข้าร้องเรียนสื่อมวลชนว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 68 ขณะตนเองกำลังขับรถตระเวนรับผู้โดยสารทั้งในกรุงเทพมหานคร และเขตสมุทรปราการ อยู่นั้น ได้แวะพักรถในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่เขตรอยต่อระหว่างบางนากับบางแก้ว ภายหลังขับรถออกมารับผู้โดยสารต่อ กระทั่งเที่ยงคืนจึงได้กลับบ้าน ซึ่งเวลานั้นเพิ่งรู้ตัวว่าทำโทรศัพท์มือถือตกหาย กระทั่งไปขอซิมใหม่เบอร์เดิม และใช้โทรศัพท์สำรองเพื่อเข้าแอปพลิเคชันธนาคารเพื่อตรวจสอบเงินในบัญชี แต่พอเปิดเข้าไปดูก็ถึงกับเข่าอ่อน เมื่อเงินเก็บทั้งชีวิตกว่า 7 หมื่นบาท ถูกโอนไปเข้าไปบัญชีของ นายกรวิทย์ (สงวนนามสกุล) จนหมดเกลี้ยง

ภายหลังเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่ ก่อนประสานธนาคาร ทำให้ทราบว่า โดนโอนไปหลายครั้ง ตั้งแต่ 10,000 บาทไปจนถึง 20,000 บาท ก่อนจะโอนเป็นหลักพันและหลักร้อย ทั้งนี้เมื่อร้องขอให้ธนาคารช่วยอายัดเงินในบัญชีปลายทาง ฝ่ายธนาคารแจ้งว่าต้องกลับไปเอาเอกสารจากตำรวจ เพื่อยื่นเปิดเผยข้อมูลของทางเจ้าของบัญชี แต่พอมาหาตำรวจ ฝ่ายตำรวจก็อ้างว่าต้องไปหาธนาคารเอาเอง ทำให้มืดแปดด้าน ไม่รู้จะพึ่งใคร สุดท้ายเอาเรื่องมาร้องสื่อ เพื่อขอความเป็นธรรมดังกล่าว ฝากวิงวอนทั้งทางตำรวจและธนาคาร ขอให้ช่วยอายัดเงินบัญชีและติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว


