สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ว่า สำนักงานไปรษณีย์สหรัฐ (ยูเอสพีเอส) ออกแถลงการณ์ ยกเลิกมาตรการรับพัสดุจากจีนและฮ่องกง ซึ่งมีการประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเพิ่มอัตราภาษีกับจีนอีก 10%
เดิมที ยูเอสพีเอสต้องการระงับนำเข้าพัสดุจากจีนและฮ่องกง อ้างอิงการยกเลิกข้อยกเว้นการเก็บภาษีอากรกับพัสดุที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26,856 บาท) โดยเชื่อมโยงกับการส่งสินค้าที่ซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ อาทิ “เทมู” และ “ชีอิน” ซึ่งการเพิ่มขึ้นอย่างมากของพัสดุที่ซื้อผ่านแพลตฟอร์มทั้งสองแห่งของจีน “เพิ่มปัญหา” ให้กับเจ้าหน้าที่ ในการแยกประเภทและตรวจสอบพัสดุเพื่อความปลอดภัย
ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรและควบคุมพรมแดนสหรัฐ (ซีบีพี) ระบุว่า การใช้มาตรการดังกล่าว ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกเว้นค่าธรรมเนียมให้กับพัสดุ เป็นมูลค่ารวมสูงถึง 1,360 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 45,628 ล้านบาท) เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา
US Postal Service briefly suspends incoming packages from China, Hong Kong https://t.co/A5zAAknJNh pic.twitter.com/0L0Id8wVes
— New York Post (@nypost) February 5, 2025
อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์ว่า มาตรการของยูเอสพีเอส จะยิ่งทำให้กระบวนการคัดแยกและส่งพัสดุของสหรัฐยิ่งล่าช้า เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องตรวจสอบพัสดุอย่างละเอียดมากขึ้น
ด้านนายหลิน เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เป็นการเล่นการเมือง โดยใช้เศรษฐกิจและการค้าเป็นเครื่องมือ” มาตรการดังกล่าว “ไม่สมเหตุสมผล” และรัฐบาลปักกิ่งจะดำเนินมาตรการที่จำเป็น “เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทจีน”.
เครดิตภาพ : AFP