สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองกาซาซิตี ฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ว่า กลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึง “แผนการยึดครองฉนวนกาซา” โดยจะฟื้นฟูทุกด้าน แต่ผู้ที่จะเข้ามาอยู่อาศัยในอนาคต “ต้องไม่ใช่ชาวปาเลสไตน์” ว่าเป็นแนวคิดที่ไม่ต่างอะไรกับ “การราดน้ำมันลงบนกองเพลิง” และจะยิ่งทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ไร้เสถียรภาพมากยิ่งขึ้นเท่านั้น


ทรัมป์กล่าวถึงเรื่องดังนี้ ระหว่างการพบหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ที่ทำเนียบขาว โดยเนทันยาฮูนับเป็นผู้นำต่างประเทศคนแรก ซึ่งเยือนกรุงวอชิงตัน นับตั้งแต่ทรัมป์กลับมารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐสมัยที่สอง เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา


ขณะเดียวกัน ทรัมป์ย้ำการที่ชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ต้องย้ายออกจากฉนวนกาซา แล้วไปลี้ภัยอยู่ในประเทศแห่งอื่น ซึ่งรวมถึงอียิปต์และจอร์แดน แม้รัฐบาลปาเลสไตน์ อียิปต์ และจอร์แดน ยืนกรานปฏิเสธไม่ยอมรับเรื่องนี้ก็ตาม


ตอนนี้ อิสราเอลและกลุ่มฮามาส อยู่ระหว่างการพักรบ 42 วัน นับตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการหยุดยิงรอบที่สอง นับตั้งแต่เกิดสงครามเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2566 โดยการหยุดยิงครั้งแรกมีผล 1 สัปดาห์ ระหว่างเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2566 โดยทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนตัวประกันและนักโทษชาวปาเลสไตน์ รวมถึงมีตัวประกันชาวไทยได้รับการปล่อยตัวระหว่างการพักรบรอบปัจจุบันด้วย 5 คน.

เครดิตภาพ : AFP