วานนี้ (4 ก.พ. 2568) สำนักข่าวเดลีสตาร์รายงานข่าวน่าสลดใจของหญิงชราวัยเกษียณที่โดนตำรวจควบคุมตัวไว้ หลังจากที่เธอเข็นเก้าอี้รถเข็นซึ่งมีศพของลูกสาวของเธอที่เสียชีวิตไปแล้วราวหนึ่งปีไปตามย่านใจกลางเมือง โดยเธอต้องขึ้นให้การในศาลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ตอนเกิดเหตุนั้น ตำรวจสันนิษฐานว่า โจน แคทลีน เทอร์เนลล์ วัย 77 ปี เก็บศพของ เทรซีย์ ลูกสาวของเธอไว้ในแฟลตมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้ เคยมีเพื่อนบ้านร้องเรียนเรื่อง “กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง” ออกมาจากแฟลตของเธอ รวมทั้งมีแมลงวันชุกชุม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ทางการมาตรวจสอบ เทอร์เนลล์ก็ปฏิเสธ ไม่ยอมให้พวกเขาเข้าไปดูในห้อง
เทอร์เนลล์พยายามโน้มน้าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเทรซีย์ยังมีชีวิตอยู่ ด้วยการนำศพของลูกสาวสวมเสื้อโค้ตสีแดง นำไปนั่งบนเก้าอี้รถเข็นและเข็นออกไปนอกอาคาร เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลอาคารติดตามเธอไปถึงถนนสายหลักของย่านวอลแทมสโตว์ เขตการปกครองท้องถิ่นลอนดอนโบโร เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 พวกเขาบอกว่าได้กลิ่นผิดปกติของร่างที่อยู่ในเก้าอี้รถเข็นและโทรฯ เรียกตำรวจ
แกรม เออร์ไวน์ เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพอาวุโสให้การต่อศาลว่า เจ้าหน้าที่เรียกให้เทอร์เนลล์หยุดเข็นรถตอนที่เธอกำลังมุ่งหน้าสู่ลานจอดรถ แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปตรวจสอบโดยเปิดหมวกฮู้ดของเสื้อโค้ตสีแดงที่คลุมหน้าร่างที่อยู่ในเก้าอี้รถเข็น พวกเขาก็พบศพที่กำลังเน่าเปื่อยอย่างรุนแรง
เทอร์เนลล์กล่าวว่า “ทำไมพวกเขาต้องมายุ่งกับเราด้วย เราสบายดีและฉันก็ดูแลเธอมาตลอด”
เจ้าหน้าที่เออร์ไวน์กล่าวต่อหน้าศาลโคโรเนอร์แห่งอีสต์ลอนดอนว่า เทอร์เนลล์มีอาการป่วยทางจิตอย่างรุนแรง เธอมีอาการเศร้าโศกจากการสูญเสียและความตายของคนที่รักเป็นระยะเวลานานและยังป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมองอีกด้วย
เทอร์เนลล์เขียนแถลงการณ์ซึ่งมีการนำมาอ่านต่อหน้าศาลว่า “ฉันไม่ได้เป็นคนทำให้ลูกสาวตาย ฉันไม่รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอตาย ฉันไม่ได้โทรฯ เรียกรถพยาบาลเพราะฉันรู้ว่าพวกเขาช่วยอะไรไม่ได้ ฉันเก็บเทรซีย์ไว้กับฉันเพราะทนไม่ได้ที่จะแยกทางกับเธอ ฉันรักเธอมากเกินไป ฉันจำวันที่แน่นอนที่เทรซีย์เสียชีวิตไม่ได้ แต่ฉันคิดว่าน่าจะประมาณเดือนกันยายน 2565
“ฉันกับเทรซีย์กำลังดูหนังกันในช่วงบ่าย หลังจากดูหนังจบ ฉันพยายามคุยกับเธอ แต่เธอไม่ตอบ ฉันลุกจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปหาเทรซีย์ ดวงตาของเธอจ้องเขม็งและรูม่านตาขยายกว้าง”
นักพยาธิวิทยาไม่สามารถหาสาเหตุการเสียชีวิตของเทรซีย์ได้ เนื่องจากร่างของเธอเน่าเปื่อยมาก อย่างไรก็ตาม พวกเขาพบว่าเทรซีย์มีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ตั้งแต่กระดูกสันหลังคดไปจนถึงแขนผิดรูปทั้งสองข้าง เทอร์เนลล์บอกว่า ลูกสาวของเธอซึ่งต้องนั่งเก้าอี้รถเข็นเพื่อไปไหนมาไหน ไม่เคยมีเพื่อนหรือคู่รัก
เจ้าหน้าที่เออร์ไวน์สรุปว่า เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เทรซีย์มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการพึ่งพาผู้เป็นแม่เพียงเท่านั้น
แม่ลูกคู่นี้ไม่เคยลงทะเบียนเข้าระบบการดูแลสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร และไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ เทรซีย์ไม่มีโทรศัพท์มือถือและตำรวจไม่พบรูปถ่ายของเธอเลยแม้แต่รูปเดียว จึงจำต้องระบุตัวตนด้วยดีเอ็นเอเท่านั้น
นอกจากนี้ ตำรวจยังพบว่าแฟลตของเทอร์เนลล์เต็มไปด้วยแมลงต่าง ๆ และหนู รวมถึงมีเศษซากอุจจาระเต็มพื้นไปหมด
สุดท้ายแล้ว ทางการอังกฤษก็ไม่ได้ดำเนินคดีเทอร์เนลล์ในข้อหาขัดขวางการฝังศพลูกสาวของเธออย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ที่มา : dailystar.co.uk
เครดิตภาพ : beauty_of_nature from Pixabay