สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา กรณีหญิงชาวอินเดีย หลอกลวงสามีของตน ให้ยินยอมขายอวัยวะในตลาดมืด จากนั้นก็ขโมยเงินและหนีไปกับชายชู้
รายงานข่าวระบุว่า หญิงสุดแสบรายนี้อยู่ในเมืองหาวรา รัฐเบงกอลตะวันตกของประเทศอินเดีย เธอใช้วิธีบีบคั้นให้สามียินยอมขายไตในราคา 10 ล้านรูปี (ราว 3.88 ล้านบาท) ให้ผู้ซื้อในตลาดมืด โดยอ้างว่าจะนำเงินมาเตรียมไว้ใช้เพื่อการศึกษา และการแต่งงานของลูกสาว
หลังจากที่พยายามตื๊ออยู่นาน สามีของเธอก็ตกลงยอมขายไต และหลังจากค้นหาผู้ซื้อเป็นเวลานานหนึ่งปี เขาก็พบผู้ซื้อไตอวัยวะเมื่อสามเดือนก่อน สามีจึงขายไตไป โดยเชื่อว่าจะได้เงินมาช่วยให้สถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวดีขึ้น รวมถึงช่วยให้จัดการงานแต่งงานของลูกสาวได้ง่ายขึ้นในอนาคต
แต่สามีกลับไม่ล่วงรู้ถึงเจตนาที่แท้จริงของภรรยา ซึ่งลักลอบนัดแนะกับชายชู้จากเมืองบาร์รักปูร์ไว้แล้ว ชายชู้คนนี้มีอาชีพเป็นจิตรกร เขาและภรรยาพบกันผ่านเฟซบุ๊ก และแอบคบหากัน
ไม่นานหลังจากที่สามีขายไต ภรรยาก็หนีไปกับชายชู้ พร้อมกับเงิน 10 ล้านรูปี
ฝ่ายสามีได้เข้าแจ้งความกับตำรวจและตามหาคนทั้งสองจนพบ จากนั้น ครอบครัวของสามีพร้อมทั้งลูกสาววัย 10 ขวบ ก็เดินทางไปถึงบ้านที่ภรรยาและชายชู้อาศัยอยู่ในเมืองบาร์รักปูร์ แต่คนทั้งสองไม่ยอมเปิดประตูบ้านออกมาพบพวกเขา
แม้ว่าพ่อสามี แม่สามี รวมทั้งตัวสามีและลูกๆ ของเธอจะขอร้อง แต่เธอก็ไม่ยอมออกมานอกบ้านเพื่อคุยกับพวกเขา ภรรยาสุดแสบยังท้าทายสามี และขู่ว่าจะฟ้องหย่า โดยอ้างว่าเธอโดนทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจมาตลอดเวลา 16 ปีที่แต่งงานกับสามี ขณะที่ชายชู้ของเธอยืนกรานว่า หญิงคนรักไม่ได้ขโมยเงินของสามี ส่วนเงินที่เธอนำติดตัวมานั้น เป็นเงินเก็บส่วนตัวของเธอเอง
ขณะนี้ คดีดังกล่าวยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนของตำรวจรัฐเบงกอลตะวันตก ซึ่งได้รับหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์โต้ตอบระหว่างครอบครัวสามีและชายชู้ และคาดว่าจะเรียกตัวภรรยามาสอบปากคำต่อไป
สำหรับการการซื้อขายอวัยวะมนุษย์นั้น ถือว่าผิดกฎหมายอินเดียตั้งแต่ปี 2537 เป็นต้นมา แต่วงการแพทย์เชื่อว่า ยังคงมีการลักลอบดำเนินการ เนื่องจากอินเดียขาดแคลนผู้บริจาคอวัยวะอย่างมากในปัจจุบัน
ที่มา : hindustantimes.com, herzindagi.com
เครดิตภาพ : Prasanta Sahoo from Pixabay