นายสมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมธุรกิจประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า บริษัทประกันวินาศภัยพร้อมรับทำประกันภัยสุขภาพภายใต้เงื่อนไขโคเพย์เมนต์หรือการจ่ายเคลมแบบรวมจ่าย พร้อมกันตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.เป็นต้นไป โดยยืนยันเงื่อนไขโคเพย์เมนต์ จะไม่กระทบต่อผู้ทำประกันสุขภาพส่วนใหญ่ เพราะจะใช้เฉพาะคนที่ใช้ประกันเกินความจำเป็นตามเงื่อนไขที่กำหนดเท่านั้น
ส่วนคนที่เจ็บป่วยจริง หรือเจ็บป่วยจากโรคร้ายแรง การผ่าตัดจะไม่เข้าข่ายเงื่อนไขนี้ ได้รับการคุ้มครองปกติเต็ม 100% เหมือนเดิม เพราะประกันสุขภาพโคเพย์เมนต์ จะนับเฉพาะโรคพื้นฐาน หรือโรคเจ็บป่วยเล็กน้อย แต่กลับมีการเคลมเป็นผู้ป่วยในเข้าไปนอนโรงพยาบาล ที่สำคัญจะนับเฉพาะเบี้ยประกันต่ออายุ โดยการซื้อประกันใหม่ครั้งแรกจะไม่นับ รวมถึงคนที่ทำประกันไปแล้วก่อนหน้าเดือนมี.ค.นี้ ก็จะไม่นับรวมด้วย โดยจะเริ่มนับหนึ่งจริงตั้งแต่การซื้อประกันสุขภาพเดือน มี.ค. 68 เป็นต้นไป
“วิธีนี้เราคาดหวังว่าจะช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของยอดเคลม หรือเงินเฟ้อด้านค่ารักษาพยาบาล และการปรับขึ้นเบี้ยประกันได้ในอนาคต ซึ่งจะทำให้คนที่เคลมประกันปกติ ไม่ต้องมารับผิดชอบผลจากคนที่เคลมสูงเกินจริงได้”
ปัจจุบันการรับประกันสุขภาพของธุรกิจประกันวินาศภัย ยังมีตัวเลขที่ขาดทุนอยู่ ดังนั้นการใช้วิธีโคเพย์เมนต์อย่างเดียว อาจไม่เพียงพอจะต้องนำวิธีอื่นเข้ามาช่วยด้วย ซึ่งขณะนี้สมาคมฯ กำลังหารือกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อดูรูปแบบการเข้าปรับปรุงเงื่อนไขประกันสุขภาพแบบกลุ่ม ที่จะใช้โคเพย์เมนต์ด้วย เพราะเงื่อนไขปัจจุบันจะนับเฉพาะประกันสุขภาพแบบส่วนบุคคลเท่านั้น
นอกจากนี้ มีแนวคิดที่จัดกลุ่มการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ตามระดับการให้บริการของสถานพยาบาล เช่น ถ้าซื้อประกันสุขภาพ แต่คุ้มครองเฉพาะโรงพยาบาลรัฐจะได้เบี้ยประกันราคาถูก แต่หากอยากขยับขึ้นไปใช้สถานพยาบาลแบบปานกลางเบี้ยจะขยับขึ้นมา หรือหากใช้โรงพยาบาลระดับนานาชาติ หรูหราเบี้ยก็จะแพงสุด
“หากให้เข้าใจง่าย อาจมีการคิดเบี้ยประกันตามการให้บริการ เช่น โรงพยาบาลหรู 5 ดาว 4 ดาว หรือ 3 ดาว เป็นต้น ต่างจากปัจจุบันที่ประกันจะให้มีการเคลมรักษาแบบเหมารวมทั้งหมด ซึ่งวิธีนี้ต้องการช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ทำประกันได้เข้าถึงในหลายรูปแบบ”