สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ว่า สมาคมอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์แห่งชาติของเม็กซิโก (ไอเอ็นเอ) ซึ่งมีสมาชิกเป็นโรงงานประกอบชิ้นส่วนยานยนต์มากกว่า 700 แห่งในประเทศ ออกแถลงการณ์ว่า มาตรการกำแพงภาษี 25% ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จะทำให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์สูงขึ้น ซึ่งรวมถึงราคาชิ้นส่วนและอะไหล่ต้องสูงขึ้นเช่นกัน
Trump's tariffs on Canada and Mexico will disrupt $225 billion in trade, adding $60 billion in costs to the auto industry, and likely increasing car prices by $3,000 https://t.co/jx0N4OxQmy
— Bloomberg (@business) February 2, 2025
ทั้งนี้ ไอเอ็นเออธิบายว่า การประกอบรถยนต์ของอเมริกาเหนือ ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่าง 3 ประเทศ คือสหรัฐ แคนาดา และเม็กซิโก โดยต้องมีการลำเลียงชิ้นส่วนเดินทางข้ามพรมแดนสูงสุด 8 รอบ กว่าจะได้รถยนต์คันหนึ่งออกมา
ดังนั้น มาตรการกำแพงภาษีของรัฐบาลทรัมป์ อาจส่งผลให้รถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐ มีราคาแพงขึ้นเฉลี่ยคันละ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 102,465 บาท) เนื่องจากผู้นำสหรัฐใช้มาตรการขึ้นภาษีกับแคนาดาด้วย
อนึ่ง ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐระบุว่า อเมริกานำเข้ารถยนต์จากเม็กซิโก รวมมูลค่า 87,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.97 ล้านล้านบาท) และชิ้นส่วนยานยนต์อีก 64,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.18 ล้านล้านบาท) ระหว่างเดือน ม.ค.-พ.ย. ปีที่แล้ว.
เครดิตภาพ : AFP