ซินเจีย ยู่อี่ ซินนี้ ฮวดไช้ “อ้วนซ่า แอบซิ่ง” ขออวยพรให้ท่านผู้อ่านสุดสัปดาห์ยานยลทุกท่าน สุขภาพแข็งแรง เงินทองไม่ขาดมือ ในปีงูเล็กนะขอรับ! เปิดตัวสดๆร้อนๆ กับการปรับโฉมรถไฟฟ้ารุ่นที่ขายดีที่สุดของค่ายเทสล่า นั่นก็คือ เทสล่า โมเดล วาย (Tesla Model Y) รุ่นปี 2025 โค็ดเนมคือ “จูนิเปอร์” (Juniper) ที่เห็นได้ชัดๆว่า ยังคงสัดส่วนตัวรถไว้เช่นเดิม แต่หน้าตานั้นได้รับการขัดสี ฉวีวรรณใหม่เสียจนล้ำสมัย แต่ส่วนอื่นๆนั้นจะเป็นเช่นไรนั้น เราจะตามไปดูกัน
เริ่มต้นที่ด้านหน้าของตัวรถนั้นได้รับการปรับโฉมใหม่หมดจด ด้วยการใช้แถบไฟเดย์ไทม์ เพรียวบางวิ่งพาดด้านหน้า ซ้ายจรดขวา ให้ความรู้สึกเฉียบคม ส่วนไฟหน้าจริงนั้นซ่อนอยู่ในกันชนตามสมัยนิยม อีกจุดที่ปรับโฉมได้อย่างมีสไตล์คือด้านท้าย ที่แต่เดิมเป็นไฟท้ายแยกซ้ายขวา แต่ในรุ่นปี 2025 นี้ได้ทำการปรับให้แถบยาวพาดซ้ายจรดขวา แต่ก็ไม่ได้เป็นแถบยาวแบบทั่วไป เพราะเป็นการออกแบบให้มีแสงเรืองส่องลงบนบานฝาท้าย ที่มีชื่อว่า “ฮาโล เทลไลท์” (Halo Taillight) ดูแล้วเท่ห์ไม่ใช่เล่น ถือว่าการออกแบบไฟท้ายของโมเดล วาย “ทำถึง” มาก
ด้านงานออกแบบภายในยังคงไว้ซึ่งแนวคิดล้ำสมัย ด้วยการออกแบบใหม่หมด แต่ยังคงเรียบง่ายสะอาดตาเช่นเดิม และมีการยกระดับด้านคุณภาพ ในส่วนของรายละเอียดในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงของการปิดประตูที่หนักแน่นกว่าเดิม หรือจุดต่างๆที่มือสัมผัสได้ในส่วนต่างๆ จะได้รับการยกระดับด้านคุณภาพวัสดุให้ดีขึ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนช่องเก็บของด้านหลังเบาะหน้าจากเดิมที่เป็นถุงยืดแบบรถทั่วไป ให้กลายเป็นแผ่นฝาแข็งสไตล์เดียวกับเบาะเครื่องบิน ดูเนี้ยบขึ้นไม่น้อย อีกทั้งยังยกระดับความเงียบห้องโดยสารให้สูงขึ้นจากการใช้กระจกกันเสียงแบบ 2 ชั้นหรือ กระจกอะคูสติก (Acoustic Glass) ทั้งกระจกบานหน้าและหลัง
ในด้านคุณภาพการขับขี่เองก็ได้ทำการยกระดับขึ้นจากการรับฟังเสียงของผู้บริโภค ที่เห็นได้ชัดเจนคือ การหวนกลับมาใช้ก้านไฟเลี้ยวเหมือนกับรถทั่วไป และยกเลิกการใช้ปุ่มไฟเลี้ยวบนพวงมาลัยที่ชวนสับสนไปเสีย รวมถึงการปรับปรุงคุณภาพของระบบกันสะเทือนเสียใหม่ ให้นุ่มนวลมากขึ้น จากการที่ผู้ใช้บ่งชี้ว่า รถเดิมนั้นช่วงล่างแข็งเกินไป เรียกว่าเดินตามแนวทางของ โมเดล 3 รุ่นปรับโฉม ทำไว้ได้ดีนั่นเอง
ด้านขุมกำลังนั้นในรุ่นเปิดตัว จะเป็นแบบ ระยะทางวิ่งยาว (Long Range) ที่มาพร้อมกับระบบ 2 มอเตอร์ขับเคลื่อนทุกล้อ (All-Wheel Drive) มีกำลัง 450 แรงม้าและจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ NMC ขนาด 78.4 kWh มีระยะทางวิ่งโดยประมาณ 551 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP สำหรับรุ่นที่ใช้ล้อ 19 นิ้ว แต่แน่นอนว่าถ้าเปลี่ยนไปใช้ล้อขนาด 20 นิ้ว ระยะทางจะหดลงเล็กน้อย ด้านอัตราเร่งนั้นยังทำได้ดี คือ 0-100 ใน 4.8 วินาที (หากใช้โหมด เพิ่มอัตราเร่งก็จะทำเวลาลดลงเหลือ 4.3 วินาที) กับความเร็วปลายระดับ 200 กิโลเมตรเช่นเดิม
ส่วนรุ่นมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังนั้น จะมีกำลัง 299 แรงม้า และใช้แบตเตอรี่ LFP ความจุ 62.5 kWh กับระยะทางวิ่ง 466 กิโลเมตร และอัตราเร่ง 0-100 ใน 5.9 วินาที สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของเทสล่า ในด้านอัตราเร่งและระยะทางวิ่ง เกิดจากการที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับสูงสามารถควบคุมน้ำหนักตัวรถให้เบามากกว่าของผู้ผลิตรายอื่น เพราะรถทั้ง 2 รุ่นนั้นมีน้ำหนักไม่ข้ามหลัก 2 ตันเหมือนกับคู่แข่งสิ่งนี้คือจุดแข็งที่คู่แข่งยังตามไม่ทัน
ด้านความปลอดภัยนั้น เทสล่า โมเดล วาย ยังคงขอรักษาตำแหน่งรถที่ปลอดภัยที่สุดไว้เช่นเดิมด้วยระบบความปลอดภัยแบบแอคทีพ ที่ช่วยหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุที่ได้รับการยอมรับมาแล้วทั่วโลก ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่ามันเป็นรถที่ยอดเยี่ยมคันหนึ่ง แต่จะติดก็ตรงที่ว่า ในบ้านเกิดนั้นประธานาธิบดีทรัมพ์ ตัดสินใจเลิกสนับสนุนรถไฟฟ้าหันไปดันรถน้ำมันแทน แล้วแบบนี้ท่านมหาเสนาบดี อีลอน มัสก์ จะทำเช่นไร เพราะราคารถจะโดดขึ้นไปทันที แต่สำหรับบ้านเราคงไม่ต้องกังวล เพราะเทสล่าในบ้านเราจะผลิตที่จีนขอรับ!.
