สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าพบหารือกับนายเจนเซน หวง ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทเอ็นวิเดีย ที่ทำเนียบขาว เกี่ยวกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมชิปในสหรัฐ และระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ทรัมป์มีแผนขึ้นภาษีการนำเข้าชิปและส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องสู่สหรัฐ ซึ่งแน่นอนว่า เอ็นวิเดียจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากนำเข้าวัตถุดิบจำนวนมากจากไต้หวัน
ขณะที่ชิปชั้นสูงแบบมีราคาแพงของเอ็นวิเดีย กำลังเผชิญกับมาตรการควบคุมของรัฐบาลวอชิงตันอย่างหนักอยู่แล้ว หากต้องการส่งออกไปจีน ท่ามกลางรายงานว่า ทรัมป์และทีมงานกำลังพิจารณาโอกาสและความเป็นไปได้ของการขยายมาตรการควบคุมการส่งออกชิปของเอ็นวิเดียไปยังจีน ให้ครอบคลุมชิปแบบราคาถูกด้วย
ด้านหวงและเอ็นวิเดีย ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับการพบหารือกับผู้นำสหรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่นาน หลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “ดีปซีค” แชตบอตปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) จากจีน ที่พัฒนาโดยใช้ต้นทุนต่ำกว่ามาก เมื่อเทียบกับแชตบอตเอไอ “แชตจีดีพี” ของโอเพนเอไอ แต่ได้ประสิทธิภาพทัดเทียมกัน
การเข้าสู่ตลาดอย่างเต็มตัวของดีปซีค ส่งผลให้ราคาหุ้นของเอ็นวิเดีย ซึ่งผลิตชิปประมวลผลเอไอด้วย ร่วงอย่างหนัก และบริษัทสูญเสียมูลค่าในตลาดไปเกือบ 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20.27 ล้านล้านบาท) ในช่วงหนึ่งของการซื้อขาย เมื่อต้นสัปดาห์นี้.
เครดิตภาพ : AFP
