สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 ก.พ. เกี่ยวกับความคืบหน้าจากเหตุการณ์ เที่ยวบิน 5342 ของอเมริกัน อีเกิล ในเครืออเมริกัน แอร์ไลน์ส ใช้เครื่องบินโดยสารบอมบาเดียร์ ซีอาร์เจ700 พร้อมผู้โดยสาร 60 คน และลูกเรือ 4 คน เดินทางมาจากเมืองวิชิตา ในรัฐแคนซัส ขนกับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กของกองทัพสหรัฐ ซึ่งมีทหาร 3 นาย ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติโรนัลด์ เรแกน ก่อนตกลงสู่แม่น้ำโพโทแมก ในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีผู้ใดรอดชีวิตนั้น


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ตั้งคำถามใหม่เกี่ยวกับการที่เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพสหรัฐ “บินสูงเกินไป” โดยอยู่ที่ระดับ “มากกว่า 200 ฟุต” ทรัมป์อ้างกฎของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติ (เอฟเอเอ) ที่ระบุว่า เฮลิคอปเตอร์ซึ่งบินผ่านและบินรอบกรุงวอชิงตัน ฐานทัพ อาคารกระทรวงกลาโหม และสถานที่โดยรอบ ห้ามมีเพดานบินสูงเกิน 200 ฟุต ส่วนเครื่องบินของอเมริกัน อีเกิล อยู่ที่ระดับความสูงราว 300 ฟุต เพื่อเตรียมลงจอด


ด้านสื่อท้องถิ่นหลายแห่งของสหรัฐ รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวทางความมั่นคง ว่าเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กลำที่ประสบเหตุ อยู่ระหว่างทำการฝึกซ้อมบินเพื่อทำการอพยพเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ ออกจากกรุงวอชิงตันไปยังสถานที่ปลอดภัยแห่งอื่น ในยามเกิดเหตุฉุกเฉินและภัยพิบัติร้ายแรง อาทิ ภูเขาราเวน ร็อก ในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการนิวเคลียร์ทางเลือก ที่ใช้ตั้งแต่สมัยสงครามเย็น


ขณะที่นายพีต เฮกเซธ รมว.กลาโหมสหรัฐ ยังไม่มีความเห็นเพิ่มเติม แต่กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ว่าจะมีการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด ทั้งในระดับกระทรวงกลาโหมและกองทัพ พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า “มีความผิดพลาดเกิดขึ้น” แต่ยืนยันว่า เฮลิคอปเตอร์บินตามแผนการ.

เครดิตภาพ : AFP