สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ “บริกส์” ว่ารัฐบาลวอชิงตันยังคงต้องการ “การให้คำมั่น” จาก “กลุ่มประเทศที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเหล่านี้” ว่าจะไม่มีการรวมตัวเพื่อสร้างสกุลเงินใหม่ หรือสนับสนุนสกุลเงินอื่นใด ให้มาแทนที่ “ความยิ่งใหญ่” ของเงินดอลลาร์สหรัฐ มิเช่นนั้น สมาชิกบริกส์ทุกประเทศจะเผชิญกับอัตราภาษีสูงสุด 100%
ถ้อยแถลงดังกล่าวของทรัมป์ มีเนื้อหาแทบจะเป็นแบบเดียวกับที่เคยกล่าว เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้น ทรัมป์ยังอยู่ในฐานะว่าที่ประธานาธิบดี
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐเน้นย้ำ ว่าไม่มีทางที่บริกส์จะสามารถแทนที่อเมริกา บนเวทีการค้าระหว่างประเทศ ประเทศใดก็ตามที่พยายามดำเนินการดังกล่าวต้องเผชิญกับมาตรการตอบโต้ ด้วยการขึ้นภาษีจากสหรัฐ
ปัจจุบัน บริกส์ มีสมาชิก 10 ประเทศ ได้แก่ บราซิล อินเดีย รัสเซีย จีน แอฟริกาใต้ อิหร่าน อียิปต์ เอธิโอเปีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และอินโดนีเซีย จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีประเทศใดออกมาให้ความเห็นอย่างเป็นทางการมากนัก ยกเว้นรัสเซียที่เคยกล่าวว่า “มาตรการบีบบังคับ” ของสหรัฐ ที่ต้องการให้ประเทศอื่นใช้เงินดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก “มีแต่จะย้อนศร”
ขณะที่การประชุมสุดยอดบริกส์ ที่เมืองคาซานของรัสเซีย เมื่อปีที่แล้ว บริกส์มีมติเพิ่ม “หุ้นส่วน” อีก 12 ประเทศ ได้แก่ แอลจีเรีย เบลารุส โบลิเวีย คิวบา คาซัคสถาน มาเลเซีย ไนจีเรีย ไทย ตุรกี ยูกันดา อุซเบกิสถาน และเวียดนาม
ส่วนแถลงการณ์ร่วมของบริกส์ มีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุถึง การสร้างเสริมและพัฒนาเครือข่ายการธนาคารร่วมกัน และการจัดตั้ง “สกุลเงินกลาง” ตามแผนริ่เริ่มการใช้จ่ายข้ามพรมแดน ระหว่างสมาชิกบริกส์.
เครดิตภาพ : AFP
