สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารของสายการบินอเมริกัน อีเกิล เที่ยวบิน 5342 ซึ่งเป็นสายการบินท้องถิ่นในเครืออเมริกัน แอร์ไลน์ส ชนกลางอากาศกับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กของกองทัพสหรัฐ เหนือแม่น้ำโพโทแมก ในกรุงวอชิงตัน เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่สร้างความเศร้าสลดให้กับชาวอเมริกันทั้งประเทศ
Q: Are you saying this crash was somehow caused and the result of diversity hiring?
— CSPAN (@cspan) January 30, 2025
Pres. Trump: It just could have been…you have to go by brain power. You have to go by psychological quality…these are very powerful tests that we put to use and they were terminated by Biden. pic.twitter.com/IpaxJ12IBm
ขณะเดียวกัน ทุกฝ่ายในสหรัฐขอมอบกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่กู้ภัย และพนักงานสืบสวนสอบสวนทุกคน ซึ่งยังคงปฏิบัติงานอย่างสุดความสามารถ เพื่อเก็บกู้และไขความกระจ่างของเหตุการณ์ครั้งนี้
Q: Should people be hesitant to fly right now?
— CSPAN (@cspan) January 30, 2025
President Trump: No…this collision is something we don't expect to ever happen again…I'm not blaming the controller. I'm saying there are things that you can question, like the height of the helicopter, the height of the plane. pic.twitter.com/QpIDeeT3FG
แม้ทรัมป์ยอมรับว่า การสืบสวนสอบสวนเพื่อค้นหาสาเหตุของอุบัติเหตุกลางอากาศที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินพาณิชย์ ครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 16 ปีของประเทศ เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐกล่าวถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ หรือหอบังคับการบิน “ที่มีศักยภาพและประสิทธิภาพลดลง” เนื่องจากเป็นผลของนโยบายความหลากหลายและความเท่าเทียม ในยุคประธานาธิบดีโจ ไบเดน และย้อนไปถึงสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา เช่นกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้น ทรัมป์เน้นย้ำว่า ไม่ได้กล่าวโทษการทำงานของเจ้าหน้าที่หอบังคับการบิน และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นกับการเดินทางทางอากาศต่อไป ว่าเพดานบินของเครื่องบินทั้งสองลำ “เป็นประเด็นที่ต้องตั้งคำถาม”
ด้านเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าว ว่าท่าอากาศยานนานาชาติโรนัลด์ เรแกน ที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุเครื่องบินสองลำชนกันครั้งนี้ ประสบกับปัญหาขาดแคลนบุคลากรประจำหอควบคุมการบินมานานระยะหนึ่งแล้ว และเจ้าหน้าที่คนเดียว ต้องควบคุมการจราจรทั้งของเครื่องบินพาณิชย์ และเฮลิคอปเตอร์.
เครดิตภาพ : AFP