เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อม นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการ อย. นพ.กรกฤช ลิ้มสมมุติ รองอธ. สบส. และเจ้าหน้าที่ อย. สบส. และมูลนิธิเป็นหนึ่ง ร่วมกันเข้าตรวจสอบคลินิกเสริมความงามชื่อดัง ย่านเกษตรนวมินทร์ กทม. หลังมีผู้เสียหายร้องเรียนว่า ได้รับผลกระทบจากการเข้าใช้บริการ และพบหมอปลอมแอบแฝงตัวทำงานในคลินิกดังกล่าว โดยใช้ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของผู้อื่น ส่งผลให้มีผู้เสียหายหลายรายได้รับผลกระทบจากการศัลยกรรมที่ผิดพลาด จนเกิดรอยแผลพุพองและใบหน้าผิดรูป


ในเบื้องต้นพบว่าคลินิกดังกล่าวตั้งอยู่ในอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น และยังคงเปิดให้บริการตามปกติ มีลูกค้าเข้าไปใช้บริการอยู่จำนวนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ขอตรวจเอกสารใบอนุญาตและอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งหมดของคลินิกพบว่า คลินิกมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุข

ด้าน นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบสถานประกอบการแห่งนี้เข้าข่ายมีความผิดชัดเจนคือ มีการทำหัตถการโดยไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดำเนินการ และพบว่าแพทย์ที่ดำเนินการเป็น “ผู้ที่จบเพียงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6” และ “ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ” อีกทั้งยังมีการใช้สถานที่ อุปกรณ์และยาที่ไม่ถูกต้อง โดยมีรายงานว่าก่อนหน้านี้ ได้มีแพทย์ของคลินิกแห่งนี้เข้าแจ้งความที่ สภ.บางแก้ว ว่ามีแพทย์เถื่อนสวมชื่อและใบประกอบวิชาชีพไปใช้เพื่อให้บริการคนไข้ แต่เมื่อเข้ามาตรวจสอบกลับพบว่า แพทย์เถื่อนคนดังกล่าว ก็ทำงานอยู่ที่คลินิกแห่งนี้เช่นกัน จึงตั้งข้อสังเกตว่า มีการรู้เห็นกันหรือไม่ สอดคล้องกับข้อมูลของผู้เสียหายที่ระบุว่า ตัวเองเข้ารับบริการกับแพทย์ที่สวมใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งในส่วนของผู้เสียหายสามารถขอรับเงินเยียวยาได้ที่กระทรวงยุติธรรม

ขณะที่ นายแพทย์วิทิต กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบมีการใช้ยาที่ไม่ขึ้นทะเบียน อย. 3 รายการ เช่น ยาชา และยาแก้อักเสบ อีกทั้งยังมีการใช้เครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน อย. หลายรายการ เช่น เครื่องเลเซอร์ มีดผ่าตัด ไหมเย็บแผล ซึ่งทาง อย. จะอายัดไว้ และจะได้ขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้นำเข้าต่อไป

ด้าน นายแพทย์กรกฤช กล่าวว่า คลินิกแห่งนี้เข้าข่ายความผิดคือ มีการใช้สถานที่ทำหัตถการเกินจากที่ขออนุญาตไว้ซึ่งได้รับอนุญาตเพียง 2 ชั้น และความผิดเกี่ยวกับการปล่อยให้ผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเข้ามารักษาคนไข้ ทาง สบส.จึงมีคำสั่งให้ปิดชั่วคราวอย่างน้อย 7 วัน และจะเรียกเจ้าของมาชี้แจงรวมถึงแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมส่งเรื่องไปที่แพทยสภาเพื่อให้ตรวจสอบแพทย์ทั้งหมดของคลินิกแห่งนี้ว่ามีพฤติกรรมรู้เห็นให้แพทย์ปลอมมาให้บริการหรือไม่.