เมื่อวันที่ 30 ม.ค. “เต้ อาชีวะ” พร้อมทีมงาน “กัน จอมพลัง” ได้พานายเอ และนางสาวบี (นามสมมุติ) นักศึกษาหนุ่มและแฟนสาว ม.เอกชนชื่อดัง มาแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง หลังถูกแก๊งโอริโอ้ ใช้มีดเข้ามารุมทำร้ายร่างกายภายในคอนโดฯ แห่งหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อช่วงเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว พร้อมข่มขู่ว่าถ้าแจ้งความจะกลับมาเล่นงานอีกครั้ง โดยผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุตัวเองและแฟนสาวเดินเข้าในคอนโดฯ เพื่อที่จะขึ้นห้องพัก จังหวะนั้นมีกลุ่มผู้ก่อเหตุ 6-7 คน นั่งอยู่ตรงล็อบบี้ หนึ่งในนั้นคือ นายมิน สมาชิกกลุ่มโอริโอ้ ได้เรียกคนทั้งกลุ่มให้มองแฟนสาวและแซวตนจึงหันไปมองและต่อว่า ก่อนจะถูกคนกลุ่มนี้รุมทำร้าย โดยในกลุ่มนี้มีคนทำมีดหล่นในที่เกิดเหตุด้วย
โดย 1 คนพยายามฟันเข้าที่แฟนตนเองแต่ไม่ถูกแต่ถูกเพื่อนกันเองในกลุ่ม จังหวะนั้นนายมิน โดนอาวุธมีดของคนในแก๊งบาดที่นิ้ว ผู้เสียหายจึงรีบพานายมิน ไปทำแผลที่ห้อง เป็นต้นเหตุให้แก๊งผู้ก่อเหตุที่กำลังหัวร้อนอยู่ตามขึ้นมาบนห้อง จากนั้นได้ล็อกประตู แต่ถูกถีบประตูจนพังเสียหาย จังหวะนั้นนายมินได้เกลี้ยกล่อมให้คนในแก๊งได้ใจเย็นลง หลังจากนั้นมี รปภ.มาห้ามปราม แต่คนกลุ่มนี้ยังมีพฤติกรรมจะทำร้าย รปภ. และเหตุการณ์ก็จบลงเพราะมีเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งรวมทั้ง รปภ.เข้ามาเจรจา หลังเกิดเหตุกลุ่มดังกล่าวบังคับให้ตนกราบเท้า ส่วนนายมินได้ทักมาหาตนเองเพื่อเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลอ้างว่าที่ได้รับบาดเจ็บวันนั้นเพราะนายมินช่วยไว้ซึ่งค่าใช้จ่ายพันกว่าบาท ตนเองยืนยันว่าไม่รู้จักคนกลุ่มนี้เป็นการส่วนตัว ทราบภายหลังว่าการที่คนกลุ่มนี้เข้ามานั่งในล็อบบี้ เพราะหนึ่งในแก๊งนี้พักอาศัยอยู่ภายในคอนโดฯ เดียวกัน เหตุการณ์หลังจากนี้ตนเองอยากให้บุคคลกลุ่มนี้ถูกดำเนินคดีทางกฎหมายทั้งหมด

เต้ อาชีวะ เปิดเผยว่า จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องของตนเองเป็นเรื่องทีมงานของพี่กัน จอมพลัง แต่กัน จอมพลังอยู่ต่างประเทศจึงฝากเรื่องมากับกุ้งสป. ที่ทำงานอยู่กับตนเองเรื่องการไล่พม่า แต่วันนี้เจอเด็กไทยเกเร จึงเอาความเกเรของเรามาพูดคุยกัน ออกนอก สภ.ได้รู้ว่าเต้ อาชีวะ เป็นอย่างไร ตนเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ากฎหมายเอาไว้ใช้กับคนที่อ่อนแอหรือมีไว้บังคับใช้กับเราทุกคน จะโอริโอ้ ฟันโอ หรือ หนมน้า ได้หมด วันนี้ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ไม่ใช่มาตั้งแก๊งอั้งยี่ซ่องโจรแบบนี้ มันรังแกคนไทย น้องๆ เป็นเยาวชนของชาติ
พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมจากเดิมผู้ก่อเหตุจำนวน 4 คน 1.นายวิทิต หรือ ต้า อายุ 28 ปี 2.นายอัครวินท์ หรือ วิน อายุ 19 ปี 3.นายศิวกร หรือ ไอซ์ อายุ 28 ปี 4.นายเป็นไท อายุ 18 ปี คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น แต่เนื่องจากผลแพทย์พบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บรักษาร่างกายเกินกว่า 20 วัน ก็จะได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนข้อกล่าวหาอื่นๆ รอผู้เสียหายสอบปากคำเพิ่มเติม ในส่วนที่ใช้อาวุธปืนในการตีที่ศีรษะก็จะเเจ้งข้อหาเพิ่มเติม

นอกจากนี้การกระทำผิดในครั้งนี้มีเพียงแค่บางคนที่กระทำความผิด แต่อยู่ในแก๊งโอริโอ้ แต่สาเหตุที่กระทำความผิดนั้นก็มีเรื่องทะเลาะกัน ซึ่งจะมีปัญหาเรื่องของผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้อง ก่อนจะมีทางผู้ชายมาเกี่ยวข้องและมีการทำร้ายร่างกายกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องส่วนตัว แต่การทำร้ายร่างกายกันมีการใช้อาวุธเป็นไม้เบสบอล ใช้อาวุธปืนข่มขู่ ซึ่งเป็นส่วนแรกของการทำร้ายร่างกาย ส่วนพฤติกรรมของแก๊งก็จะมีการไปข่มขู่ ไปรุกราน บังคับเขา ก็จะเป็นอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในระหว่างการขยายผล อะไรที่อยู่เขตพื้นที่รับผิดชอบเราจะดำเนินการทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจก็ทำงานเต็มรูปแบบ ส่วนที่สอง ที่เกี่ยวกับ สอท. ซึ่งทางท่านผู้บัญชาการก็ได้ดำเนินการตามที่ได้มีการแถลงข่าวไปแล้ว

ในวันนี้ก็มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการทำร้ายร่างกายก็เป็นผู้ต้องหา 4 คนในกลุ่มโอริโอ้ โดยผู้ต้องหาก็จะซ้ำกับผู้ต้องหากลุ่มที่ 1 ที่เราได้แจ้งทำร้ายร่างกายสาหัส ส่วนคดีที่ 2 ผู้เสียหายได้มีการมาแจ้งไว้เมื่อเดือน ก.ค. 67 แล้ว ซึ่งผู้เสียหายได้ขอลงไว้เป็นหลักฐาน ไม่ประสงค์ไปตรวจร่างกาย แต่เนื่องจากมีกระแสเข้ามาเขาก็เลยจะมาแจ้งความ เราก็จะได้ดำเนินการในส่วนนี้ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ก่อเหตุ 4 คนก่อนหน้านี้มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมคือ 1.ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส 2.ร่วมกันข่มขืนผู้อื่นให้กระทำการไม่กระทำการ หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้อื่นหรือบุคคลที่สาม โดยขู่เข็ญหรือใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ 3.ร่วมกันมีอาวุธปืนครอบครองฯ และนำตัวไปขอศาลจังหวัดธัญบุรีฝากขัง ส่วนผู้เสียหายเดินทางมาพบตำรวจนั้น ก่อนหน้านี้ได้เดินทางมาแจ้งความแล้วแต่ไม่ประสงค์ตรวจร่างกาย และมายืนยันแจ้งอีกรอบหนึ่งนั้นเป็นอีกคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามตัวมาเพิ่มอีก 3 คน แต่ในจำนวนนี้มี 1 คนที่อยู่ในคดีแรก เท่ากับ 2 คดีมีผู้ต้องหาคดีละ 4 คน