สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สวีเดนเผชิญกับเหตุการณ์กราดยิงและการวางระเบิดหลายครั้ง ซึ่งเชื่อมโยงกับการล้างแค้นระหว่างแก๊งอาชญากรที่เป็นคู่แข่งกัน โดยผู้ก่อเหตุมักเป็นวัยรุ่นที่ถูกว่าจ้าง เนื่องจากพวกเขามีอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งเป็นอายุความรับผิดทางอาญาในสวีเดน

ทั้งนี้ รัฐบาลเสียงข้างน้อยฝ่ายกลางขวาของนายกรัฐมนตรีอูลฟ์ คริสเตอร์สสัน ผู้นำสวีเดน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชาธิปไตยสวีเดน ขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี 2565 พร้อมกับคำมั่นสัญญาที่จะจัดการกับอาชญากรรมอย่างเข้มงวด

“ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมประการหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้ คือ นักโทษมีจำนวนมากขึ้น และรับโทษจำคุกนานกว่าเดิม ส่งผลให้เกิดแรงกดดันเพิ่มขึ้นต่อระบบเรือนจำของสวีเดน” นายกุนนาร์ สตรอมเมอร์ รมว.ยุติธรรมสวีเดน กล่าวในการแถลงข่าว เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการส่งตัวนักโทษไปยังเรือนจำในต่างประเทศ

ด้านนายแมตเทียส วาห์ลสเตดท์ หัวหน้าคณะกรรมการสอบสวน แนะนำว่า การดำเนินการดังกล่าวควรอยู่ภายในสหภาพยุโรป (อียู) หรือพื้นที่เชงเกน และข้อตกลงที่มาจากการเจรจาระหว่างสวีเดนกับประเทศที่เกี่ยวข้อง จะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาสวีเดน

อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงาน “เซโก” ซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานเรือนจำ คัดค้านแผนการของรัฐบาลสตอกโฮล์ม โดยให้เหตุผลว่า บริการสาธารณะเป็นสิ่งที่ไม่ควรจ้างให้ประเทศอื่นดำเนินการแทน เพื่อป้องกันไม่ให้กิจกรรมของรัฐ ตกอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของภาคเอกชน.

เครดิตภาพ : AFP