เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ซึ่งมีหลายหน่วยงานเข้าร่วมรับฟังข้อสั่งการนโยบาย ในการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า ท่านนายกรัฐมนตรีหารือกับตนในเรื่องนี้ ให้เข้ามาดูแลจัดการปัญหาผ่านอำนาจในส่วนของการเป็นผู้บัญชาการหน่วยงาน ซึ่งท่านนายกฯ จะสนับสนุนการทำงานกองบัญชาการนี้ คือการบูรณาการความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายกำหนด การแก้ฝุ่น เรามีคำสั่งไปแล้วให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในการบัญชาการด้วยตัวเองแบบ “ซิงเกิล คอมมานด์” สามารถประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดท่านได้ทันที เพื่อควบคุมสถานการณ์ ซึ่งย้ำมาตลอด ใครเผาเท่ากับผิดกฎหมาย พูดมาหลายครั้งมาก ห้ามก็คือห้าม ไม่ใช่เวลามานั่งอะลุ้มอล่วย 

“แต่ผมก็มองในมุมของเกษตรกร เข้าใจว่าการเกษตรของไทย มีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร ไม้ยืนต้น เกษตรกรปลูกน้อยลง แล้วหันมาปลูกไม้ล้มลุกอย่างข้าวโพดมากขึ้น ซึ่งเก็บเกี่ยวได้เร็ว เกษตรกรใช้การเผาแทนการไถกลบ ซึ่งประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย แรกๆ ก็พอทำได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเผาส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง รัฐต้องเข้ามาควบคุม ตอนนี้ใช้กฎหมายจัดการ เกษตรกรมีความลำบากขึ้นอยู่แล้ว ทางรัฐจะหาทางช่วยเหลือให้ เช่น ค่าน้ำมันไว้เติมเครื่องไม้เครื่องมือ เวลาต้องฝังกลบ การสนับสนุนให้ใช้การรีไซเคิล เราเข้าใจปัญหาทุกอย่าง และไม่อยากได้ชื่อว่ารังแกชาวบ้าน กำลังหาทางออกให้ท่านอยู่ ขอย้ำว่าเราไม่ได้สักแต่บังคับใช้กฎหมายกับท่าน เพราะเราเองก็เข้าใจเกษตรกรเช่นกัน” นายอนุทิน กล่าว.