สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ว่า แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุว่า คำเตือนของยูเอ็น มีขึ้นในขณะที่กองกำลังกบฏ 23 มีนาคม หรือ “เอ็ม 23” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรวันดา เข้าควบคุมสนามบินในเมืองโกมาที่ถูกปิดล้อม ส่งผลให้เมืองเอกของภาคตะวันออกใกล้จะล่มสลาย
“การโจมตีที่มีแรงจูงใจทางชาติพันธุ์ในภูมิภาคดังกล่าว ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่ละเอียดอ่อนมาก จำเป็นต้องได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง” นางวิเวียน ฟาน เดอ เปร์เร รองผู้แทนพิเศษฝ่ายปฏิบัติการในกองกำลังรักษาสันติภาพ “โมนุสโก” (MONUSCO) กล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ผ่านการสนทนาทางคลิปวิดีโอ
นอกจากนี้ ฟาน เดอ เปร์เร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (โอเอชซีเอชอาร์) บันทึกเหตุการณ์การประชาทัณฑ์ที่มีแรงจูงใจทางชาติพันธุ์ในเมืองโกมา “อย่างน้อย 1 กรณี” ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา
#UPDATE The UN peacekeeping force in eastern Democratic Republic of Congo has warned of the risk of ethnically motivated attacks as conditions deteriorate in the region, haunted by the legacy of the 1994 Rwanda genocide and its aftermath https://t.co/bTuUOtZsuB
— AFP News Agency (@AFP) January 28, 2025
อนึ่ง เมืองโกมากลายเป็นสมรภูมิรบ นับตั้งแต่นักรบจากกลุ่มกบฏเอ็ม23 ซึ่งนำโดยชาวทุตซี และกองกำลังรวันดา เข้าสู่ใจกลางของเมือง หลังจากรุบคืบผ่านภูมิภาคนานหลายสัปดาห์
ด้านรัฐบาลปักกิ่ง เรียกร้องให้รัฐบาลคิกาลี ให้ความสำคัญกับคำร้องขอจากนานาชาติ และหยุดสนับสนุนกลุ่มกบฏเอ็ม23 ขณะที่ตัวแทนจากหลายฝ่าย เรียกร้องให้ “ยุติการโจมตีทางชาติพันธุ์” เพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งขยายวงกว้าง.
เครดิตภาพ : AFP