สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ว่า แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุว่า คำเตือนของยูเอ็น มีขึ้นในขณะที่กองกำลังกบฏ 23 มีนาคม หรือ “เอ็ม 23” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรวันดา เข้าควบคุมสนามบินในเมืองโกมาที่ถูกปิดล้อม ส่งผลให้เมืองเอกของภาคตะวันออกใกล้จะล่มสลาย

“การโจมตีที่มีแรงจูงใจทางชาติพันธุ์ในภูมิภาคดังกล่าว ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่ละเอียดอ่อนมาก จำเป็นต้องได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง” นางวิเวียน ฟาน เดอ เปร์เร รองผู้แทนพิเศษฝ่ายปฏิบัติการในกองกำลังรักษาสันติภาพ “โมนุสโก” (MONUSCO) กล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ผ่านการสนทนาทางคลิปวิดีโอ

นอกจากนี้ ฟาน เดอ เปร์เร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (โอเอชซีเอชอาร์) บันทึกเหตุการณ์การประชาทัณฑ์ที่มีแรงจูงใจทางชาติพันธุ์ในเมืองโกมา “อย่างน้อย 1 กรณี” ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา

อนึ่ง เมืองโกมากลายเป็นสมรภูมิรบ นับตั้งแต่นักรบจากกลุ่มกบฏเอ็ม23 ซึ่งนำโดยชาวทุตซี และกองกำลังรวันดา เข้าสู่ใจกลางของเมือง หลังจากรุบคืบผ่านภูมิภาคนานหลายสัปดาห์

ด้านรัฐบาลปักกิ่ง เรียกร้องให้รัฐบาลคิกาลี ให้ความสำคัญกับคำร้องขอจากนานาชาติ และหยุดสนับสนุนกลุ่มกบฏเอ็ม23 ขณะที่ตัวแทนจากหลายฝ่าย เรียกร้องให้ “ยุติการโจมตีทางชาติพันธุ์” เพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งขยายวงกว้าง.

เครดิตภาพ : AFP