เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 68 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณารายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. 2566 โดยมีนายศิริสุข ยืนหาญ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นตัวแทนชี้แจงต่อวุฒิสภา

โดยในช่วงหนึ่งของการอภิปราย นายอะมัด อายุเคน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า ในเรือนจำทั่วประเทศมีนักโทษประมาณ 300,000 ราย เป็นนักโทษในคดียาเสพติดถึง 280,000 คน มันน่าตกใจมาก เพราะคุกไทยเป็นที่รองรับของคนชั่วค้ายาเสพติด หรือติดยาเสพติดได้ดีมาก ตนเคยคุยกับคนต่างชาติที่ทำความผิด ยังบอกว่าไม่กลัวที่จะติดคุกไทย เพราะคุกไทยมีอาหารครบ 3 มื้อ สารอาหารครบ 5 หมู่ เช้าๆ มีออกกำลังกาย มีสถานพยาบาลภายในให้ดูแล ซึ่งทางแก้ปัญหา เนื่องจากกฎหมายเรื่องยาเสพติดของเรามันอ่อนมาก ถ้าให้ตนมีอำนาจแล้วเสนอได้ ภายใน 6 เดือนจะไม่ให้มียาเสพติดเลยสักเม็ดเดียว เพราะตนจะเสนอให้ประหารชีวิตนักโทษยาเสพติด ไม่ต้องไปวิสามัญแบบใต้ดินที่เคยทำ 2,000 กว่าคนสมัยใครก็ไม่รู้ เอาขึ้นมาบนดิน ประหารชีวิตเลยภายใน 3 เดือน แล้วถ่ายทอดออกโทรทัศน์ด้วยให้คนในประเทศได้รับรู้ ตนรับประกันได้ว่าจะไม่มีใครกล้าทำอีก แต่ขณะนี้เราลูบหน้าปะจมูก เราก็แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ยอมแก้ต้นเหตุ

“เราต้องมีจุดยืน ต้องกล้าทำ ไม่ต้องไปแคร์ต่างชาติ ไม่ต้องแคร์ใคร เรามีศาลพิเศษขึ้นมาเลย แล้วตัดสินภายใน 3 เดือนประหารชีวิตเลย แล้วโฆษณาออกสื่อให้รู้ว่าถูกประหารชีวิตเพราะยาเสพติด แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหลายที่เข้าไปเกี่ยวข้องก็ย้ายไปเข้ากรุให้หมด เอาคนใหม่ขึ้นมาแทน ผมอยากให้ทำแบบสิงคโปร์ ที่ตัดสินประหารชีวิตในคดียาเสพติดแบบแขวนคอ ผมอาจรุนแรงไป แต่ไม่ใช่ ผมเด็ดขาด ถ้าเรายังลูบหน้าปะจมูกอย่างนี้ เด็กๆ ที่ติดยาจะไม่มีคุณภาพชีวิต เด็กสิงคโปร์ เด็กต่างชาติไอคิวไปถึงไหนแล้ว ไม่ต้องมาทำร้ายตัวเอง ไม่ต้องทำร้ายคนอื่นเพราะยาเสพติด ผมพูดไป นักสิทธิมนุษยชน เอ็นจีโอ ก็จะมาบอกว่าแบบนี้ทำไม่ได้ มันบาป แต่ผมก็ไม่อยากว่า เดี๋ยวจะมีศัตรู” นายอะมัด กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการอภิปรายของนายอะมัด ที่เสนอแนวทางการแก้ปัญหายาเสพติดด้วยการประหารชีวิตแบบเด็ดขาด เป็นที่ชอบใจของเพื่อนสมาชิกที่อยู่ในห้องประชุม ถึงขนาดมายืนอยู่ข้างหลังนายอะมัด พร้อมส่งเสียงเชียร์ สนับสนุนแนวทางดังกล่าว.