คนไทยกับบุฟเฟ่ต์เป็นของคู่กัน เพราะคนไทยชอบกินบุฟเฟ่ต์สุด ๆ แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ อาจทำให้มีอาการ “ท้องอืด-ท้องผูก” ได้ ถ้าทานมากเกินไป ทานอาหารไม่สมดุล ก็จะเกิดปัญหาที่ระบบย่อยอาหารได้
แต่ปัญหานี้สามารถคลี่คลายได้ด้วย 3 สิ่งนี้
1. ขิง

ขิงเป็น “ยาแก้พิษ” ของอาการท้องอืดและอาหารไม่ย่อย ขิงมีโชกาออล ซึ่งกระตุ้นการหลั่งของเอนไซม์ย่อยอาหาร เพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้ ช่วยให้อาหารย่อยได้อย่างรวดเร็ว ป้องกันอาการท้องอืดและอาหารไม่ย่อย
นอกจากนี้ขิงยังมีฤทธิ์บรรเทาอาการปวดท้อง ลดอาการกระตุกของกระเพาะอาหาร ลดอาการคลื่นไส้อาเจียน สารประกอบในขิงยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยลดแผลในลำไส้เล็กส่วนต้น
วิธีการใช้ขิงช่วยย่อยอาหาร :
- ชงน้ำขิง: ขิงสดบด 1 ช้อนชาผสมกับน้ำร้อน แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วดื่มได้เลย
- ทำโจ๊กขิง: ทำโจ๊กขาวแล้วใส่ขิงสดหั่นบาง ๆ ใส่ต้นหอม ผักชีฝรั่ง เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณประโยชน์
- เพิ่มขิงในอาหาร: เพิ่มขิงในซุปและอาหารตุ๋น เพื่อเพิ่มรสชาติและช่วยย่อยอาหาร
2. ขมิ้น

ขมิ้นมีสารเคอร์คูมินที่ช่วยสมานแผล ต้านการอักเสบ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เคอร์คูมินในขมิ้นช่วยรักษาแผลในลำไส้เล็กส่วนต้น และสร้างเยื่อบุกระเพาะอาหารขึ้นมาใหม่
ขมิ้นยังช่วยยับยั้งการอักเสบ ลดการอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหาร การใช้ขมิ้นอย่างเหมาะสม ยังช่วยปกป้องเซลล์ในกระเพาะอาหารจากการโจมตีของอนุมูลอิสระ ป้องกันความเสียหายของกระเพาะอาหาร
วิธีการใช้ขมิ้นช่วยย่อยอาหาร :
- ชงน้ำขมิ้น: ชงผงขมิ้น 1 ช้อนชา กับน้ำผึ้งและน้ำอุ่น ดื่มได้ทุกวัน
- ปรุงแกงไก่ด้วยขมิ้น: แกงไก่เป็นอาหารที่อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการ ควรใส่ขมิ้นเข้าไปด้วย เพื่อช่วยปรับปรุงสุขภาพของกระเพาะอาหาร
- เพิ่มขมิ้นในอาหาร: ใส่ขมิ้นลงในอาหารประเภทตุ๋นและผัด เพื่อเพิ่มรสชาติ และคุณประโยชน์ในการช่วย
3. กระเทียม

กระเทียมช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร และยังเป็น “ยา” ที่มีคุณค่าสำหรับกระเพาะอาหาร อัลลิซินในกระเทียมมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย Helicobacter pylori ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของแผลในลำไส้เล็กส่วนต้น
กระเทียมช่วยปรับปรุงสุขภาพของเยื่อบุกระเพาะอาหาร ปกป้องกระเพาะอาหารจากสารที่เป็นอันตราย กินกระเทียมทุกวันจะช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร เพิ่มการหลั่งในกระเพาะอาหาร ช่วยให้อาหารย่อยได้ดีขึ้น
วิธีการใช้กระเทียมช่วยย่อยอาหาร :
- กระเทียมดิบ: กินกระเทียมดิบ 1-2 กลีบทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้า
- ใส่กระเทียมลงในจานอาหาร: ใส่กระเทียมลงในอาหารประเภทผัด ตุ๋น และใส่ในน้ำจิ้มเพื่อเพิ่มรสชาติและคุณประโยชน์
- แช่กระเทียมกับน้ำผึ้ง : แช่กระเทียมกับน้ำผึ้งประมาณ 1 เดือน แล้วนำมารับประทาน หรือใส่กับอาหารต่าง ๆ การแช่กระเทียมในน้ำผึ้งช่วยลดกลิ่นฉุนของกระเทียม และเพิ่มคุณประโยชน์ให้มากขึ้น.
ที่มาและภาพ : soha