เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 28 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ขณะนี้ มีเสียงคัดค้านต่อพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มากขึ้นเรื่อยๆ มีความเป็นห่วงอย่างไรบ้าง ว่า เรื่องนี้ตนเคยให้แนวทางไปแล้ว ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน ทางกระทรวง พม.ได้นำเสนอข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้ว ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า มีทั้งแง่ดี และแง่ด้อย ในแง่ดี ตนเชื่อว่าทุกคนคงทราบดี แต่ประเด็นที่เป็นห่วง คือเรื่องการค้ามนุษย์ รวมถึงการค้าประเวณี และการสร้างลักษณะนิสัยที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ซึ่งคงต้องมีมาตรการ ทั้งการประชาสัมพันธ์ การดูแลอย่างใกล้ชิด การบังคับใช้กฎระเบียบอย่างเข้มงวด

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ก็เป็นช่องทางที่จะสามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มคนที่กระทรวง พม.ดูแลอยู่ได้ ทั้งผู้สูงอายุ และคนพิการ การมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในลักษณะนี้ หรือการจ้างงานผู้สูงอายุ พี่น้องคนพิการสามารถทำได้ โดยไม่เป็นอุปสรรคกับอาชีพ ซึ่งตนคิดว่าจะเป็นการสร้างเศรษฐกิจในชุมชน ให้กับคนกลุ่มนี้ ซึ่งที่ผ่านมา อาจจะยังไม่ได้รับการจ้างงานเท่าที่ควร จึงประเด็นที่พรรค และกระทรวง พม.ได้นำเสนอ

เมื่อถามถึงกรณีนี้ที่เป็นเรื่องใหม่มากในสังคม จนมีการเสนอทำประชามตินั้น นายวราวุธ มองว่า พรรคเพื่อไทยคงได้พิจารณามาถี่ถ้วนแล้วในการทำนโยบายนี้ออกมา ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหลายฝ่ายก็ยังมีการบ้านที่ต้องทำเพิ่มเติม ตนเชื่อมั่นว่า แต่ละประเด็นที่ประชาชนกังวล คงจะได้รับการตอบรับ และนำไปแก้ปัญหา เพื่อให้มาตรฐานต่างๆ มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น

เมื่อถามถึงกรณีที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อาจไม่ได้กำหนดสัดส่วนกาสิโน ไว้ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ มองว่าควรจะกำหนดหรือไม่ นายวราวุธ ระบุว่า ตนยังไม่ได้รับข้อมูล ขอลงไปดูในรายละเอียดก่อน ยังตอบทันทีไม่ได้ เพราะเพิ่งได้ยินข่าวเหมือนกัน

เมื่อถามต่อว่า ควรกำหนดเปอร์เซ็นต์กาสิโนหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า การจะทำอะไรทุกอย่างในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คงต้องมีกติกา ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่า กติการนี้ใครจะเป็นคนกำหนด คณะรัฐมนตรี หรือคณะกรรมการกำกับนโยบาย ซึ่งตนในฐานะรัฐมนตรี พม.ก็อยู่ในคณะกรรมการนั้นด้วย คงต้องไปว่ากันในชั้นนั้นอีกครั้ง