สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ว่าวุฒิสภาสหรัฐมีมติเสียงข้างมาก 68 ต่อ 29 เสียง รับรองนายสกอตต์ เบสเซนต์ ให้ดำรงตำแหน่งรมว.กระทรวงการคลังคนที่ 79 ของประเทศ
ทั้งนี้ เบสเซนต์ ซึ่งเป็นอดีตเทรดเดอร์ วิจารณ์การใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลอวอชิงตันชุดปัจจุบัน ทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณในอัตราที่สูง และเน้นความจำเป็นของการรักษาความปลอดภัยและเสถียรภาพ ให้กับห่วงโซ่อุปทานที่ยังคงเปราะบาง และการใช้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐนับจากนี้ “ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น”
ขณะเดียวกัน เบสเซนต์เรียกร้อง การบัญญัติให้กฎหมายภาษีฉบับปี 2560 ในยุครัฐบาลทรัมป์สมัยแรก “เป็นมาตรการถาวรทั้งหมด” เนื่องจากบางมาตราจะหมดอายุสิ้นปีนี้ หากสภาคองเกรสไม่ดำเนินการ ชาวอเมริกันจะต้องเผชิญกับมาตรการขึ้นภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ มีมูลค่าสูงถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 135.56 ล้านล้านบาท ) ซึ่งชนชั้นกลางและชนชั้นแรงงาน หรือ กลุ่มรากหญ้า จะได้รับผลกระทบมากที่สุด
????????Scott Bessent's confirmation as United States Secretary of the Treasury highlights President Trump's dedication to restoring economic strength and stability.
— The White House (@WhiteHouse) January 27, 2025
America is BACK. pic.twitter.com/Pr1J8Z22g3
เกี่ยวกับการคว่ำบาตรรัสเซีย เบสเซนต์กล่าวว่า สนับสนุนการเดินหน้ากดดันอุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซีย โดยในระหว่างนี้ สหรัฐต้องหาทางเพิ่มอุปทานของตัวเอง เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้กับรัสเซียในเรื่องนี้ รวมถึงอิหร่านด้วย
ในประเด็นกำแพงภาษี เบสเซนต์ไม่คิดว่า จะกลายเป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น เพราะมาตรการนี้คือการสร้างรายได้ให้กับสหรัฐ และแก้ไขปัญหาการค้าไม่เป็นธรรม ที่เกิดขึ้นมานานกับอเมริกา
JUST IN: ???????? Donald Trump's pick for Treasury secretary Scott Bessent says "I see no reason for the U.S. to have a CBDC." pic.twitter.com/6Zm89L1qca
— Bitcoin Magazine (@BitcoinMagazine) January 16, 2025
ในด้านความสัมพันธ์กับจีน เบสเซนต์กล่าวว่า สหรัฐต้องรักษาความเป็นผู้นำเหนือจีน ทั้งในด้านปัญญาประดิษฐ์ ( เอไอ ) และเซมิคอนดักเตอร์ และสหรัฐต้องขึ้นภาษีสินค้าเกษตรของจีน และแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้า เพื่อไม่ให้สินค้าจีน “ล้นตลาด” ของสหรัฐ
เกี่ยวกับนโยบายการเงิน เบสเซนต์ยืนยันว่า การทำงานของธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด ) “ต้องเป็นอิสระจากทำเนียบขาว” ดอลลาร์สหรัฐต้องเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลกต่อไป และไม่สนับสนุนการให้เฟดใช้สกุลเงินดิจิทัล โดยกล่าวว่า “ไม่มีเหตุผล” ที่สหรัฐต้องมีสกุลเงินดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เบสเซนต์มองว่า สหรัฐเป็นประเทศที่ “รัฐบาลมีปัญหาด้านการใช้จ่าย” แต่เน้นย้ำว่า หากได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา เขาจะไม่มีทางปล่อยให้การผิดนัดชำระหนี้เกิดขึ้น.
เครดิตภาพ : AFP