เมื่อวันที่ 27 ม.ค. นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า พ.อ. สรรเสริญ ไพรโสภา ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 14 นายพงศ์กร สีมา พนักงานราชการ ตำแหน่ง พนักงานพิทักษ์ป่า หัวหน้าหน่วยฯอุทยานแห่งชาติที่ ทภ. 7 (เวียคาดี้) และ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติที่ ทภ. 9 (ปะไรโหนก) ได้สนธิกำลังจับกุม นายต้าซุย อายุ 48 ปี นายเอกาลูทู อายุ 39 ปี และ นายซอคาเล อายุ 27 ปี เชื้อชาติกระเหรี่ยง ทั้ง 3 คน
พร้อมของกลาง ประกอบด้วย 1. ปืนยาวบรรจุปาก (ปืนแก๊ป) จำนวน 3 กระบอก 2.ซากงูเหลือมรมควัน น้ำหนักรวม 1.2 กิโลกรัม 3.ซากตะกวดรมควัน น้ำหนักรวม 1 กิโลกรัม 4.ซากกระเพาะเม่นหางพวงรมควัน น้ำหนัก 400 กรัม 5.ชุดเครื่องกระสุนปืนประกอบด้วยเม็ดตะกั่ว, ดินปืน (ดินดำ), เม็ดแก๊ปกระดาษ และใยมะพร้าวฉีกละเอียด จำนวน 3 ชุด 6.มีดเหน็บ จำนวน 2 เล่ม 7.มีดอีโต้ จำนวน 1 เล่ม 8.หนังสติ๊ก 1 อัน พร้อม กระสุนดิน 22 ลูก 9.ไฟฉายคาดหัวจำนวน 5 อัน 10.ไฟฉายมือถือ จำนวน 1 อัน 11.เปล จำนวน 3 ผืน 12.ย่ามกระสอบสะพายข้าง จำนวน 3 ใบ และ13.เป้กระสอบสะพายหลัง จำนวน 4 ใบ
สืบเนื่องจากได้ร่วมกันออกปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และพื้นที่ป่าบริเวณชายแดนไทย–พม่า ช่องทางเยซิตี้ ขณะเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังออกลาดตะเวนถึงป่าห้วยองค์พระ ท้องที่หมู่ที่ 7 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้พบกลุ่มควันไฟลอยขึ้นมา จึงได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบ กระทั่งพบชาย 3 คน เดินมาตามร่องห้วยในทิศใต้ ลักษณะถือปืนแก๊ปสะพายย่าม จึงได้แสดงตนเป็นพนักงานจับกุมทั้ง 3 คน ได้พร้อมของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวนทั้ง 3 คน ให้การว่า ได้เดินเท้าเพื่อเข้ามาล่าสัตว์ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยเริ่มออกจากศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบบ้านต้นยาง โดยเดินตามสันเขาร่องห้วยในพื้นที่ป่า และออกล่าสัตว์โดยใช้อาวุธปืนแก๊ป ซึ่งแต่ละคนมีอาวุธติดตัวคนละกระบอก
เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดตามกฎหมาย ประกอบด้วย 1. พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 , 2. พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 , 3. พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และ 4. พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายตามต่อไป.