ช่วงนี้ใกล้เลือกตั้งนายก อบจ. บางจังหวัดอย่างศรีสะเกษ เชียงราย เพื่อไทยก็หวังล้มบ้านใหญ่ที่สนับสนุนภูมิใจไทยให้ได้ จังหวัดไหนสู้ยิบตาหน่อย “อดีตนายกฯ แม้ว” ก็ลงพื้นที่เอง และมีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่อดีตนายกฯ แม้ว กล่าวบนเวที ว่า “ต้องปรับกระทรวงศึกษาธิการกันครั้งใหญ่ เพราะใหญ่เกินไปจนมีปัญหาห่วงที่สุดคือการศึกษาเด็กไทย ระบบการศึกษาเราทำให้เด็กพัฒนาความคิดได้น้อย ต้องใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย”

เรื่องนี้ก็เหมือนตีกระทบบ้านใหญ่ชิดชอบโดยตรง เพราะ รมว.ศึกษาธิการก็คือ “บิ๊กอุ้ม” พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ทำให้ “เสี่ยโต้ง แห่งซีรีส์ไทบ้าน” สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะโฆษก ศธ. ตอบโต้ว่า “สิ่งที่นายทักษิณพูดไม่ใช่ปัญหาใหม่ แต่เป็นปัญหาที่เป็นมานานแล้วตั้งแต่เขายังเป็นนายกฯ อยู่ และได้ผ่านการแก้ปัญหามาหลายยุคหลายสมัย คิดว่าคนที่แก้ไขปัญหาเรื่องระบบการศึกษาต่างๆ ได้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม คือ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ หากนายทักษิณยังไม่มั่นใจก็ให้ไปสอบถามครูเอาเอง ไม่ว่าจะเป็นการที่ครูไม่ต้องมาอยู่เวร การที่ครูได้ยื่นขอย้ายโดยไม่ต้องวิ่งเต้น ว่าเป็นอย่างไร

แน่นอนว่าปัญหายังไม่หมด และต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเกิดจากภาระงบประมาณ เราไม่จำเป็นจะต้องจ้างครูใหม่ แต่สิ่งที่ควรทำคือ การเพิ่มทักษะความรู้ชุดใหม่ให้แก่ครู และเรากำลังเฝ้ารอว่าเทคโนโลยีที่นำมาใช้ประกอบการเรียนการสอนของครูและนักเรียนในภาคเรียนที่ 1 ในปี 68 จะช่วยเปลี่ยนแปลงการศึกษาได้ในระดับไหน

ไม่คิดว่า ต้องเก็บภาษีพนันออนไลน์เพื่อมาจ้างครูต่างชาติสอนภาษาต่างประเทศ อย่าสร้างเงื่อนไขว่าทำพนันออนไลน์ถูกระบบไม่ได้แล้วจะไม่มีเงินมาจ้างครู ถือว่าเป็นคนละเรื่อง เชื่อว่า อดีตนายกฯ แม้วปราศรัยถึง ศธ.อาจเป็นเทคนิคในการหาเสียง ไม่ได้มีนัยทางการเมืองเพื่อจะขอโควตาเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการคืน และวันนี้ปัญหาที่นายทักษิณพูดจะแก้ปัญหาได้ง่ายมากก็คือ การที่ ศธ.ของบประมาณไปแล้วไม่ตัดสัก 3 ปี จะเห็นการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาที่สำเร็จ เพราะที่ผ่านมา ศธ.ถูกตัดงบการแจกอุปกรณ์เสริมการสอนอย่างแท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์ ถูกตัดเหลือศูนย์บาท อีกทั้งรายจ่ายงบบุคลากรกว่า 80% จนทำให้ไม่มีงบประมาณมาพัฒนาด้านอื่นๆ” โฆษกศธ.กล่าว
สำหรับโพลเรื่องประชาชนไม่เห็นด้วยกับการตั้งกาสิโนนั้น “รองหนิม” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงว่า ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มันคือธุรกิจหลายประเภทเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งบวกกาสิโนเข้าไปด้วย เป้าหมายการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ 5% กลไกเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนได้
“ส่วนผลโพล ขอให้สื่อมวลชนพูดให้ชัดว่าเขาหมายถึงการพนันออนไลน์ โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ผ่านกระบวนการทำประชาพิจารณ์มาเรียบร้อย ประชาชนเห็นด้วย 80% ที่ประชาชนเป็นห่วงเรื่องการพนัน ครม.เคยมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ไปศึกษา ทั้งเรื่องการพนันออนไลน์และคอลเซ็นเตอร์ ประมาณ 4-5 เรื่อง ผลศึกษากลับมายัง ครม.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้น ดีอี กระทรวงมหาดไทย รวมไปถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปประชุมร่วมกันและยกร่างกฎหมายสำหรับพนันออนไลน์ต่อไป”

รองหนิมกล่าวด้วยว่า เราชี้แจงกฤษฎีกาว่า เป็นโมเดลทางธุรกิจอีกแบบหนึ่ง ที่ต่างประเทศเขาใช้กัน และชี้แจงว่าเป็นเรื่องของหลายธุรกิจประกอบกัน อาทิ สนามกีฬา ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ประกอบกันและบวกกับกาสิโน ธุรกิจบางประเภท อย่างสนามกีฬาหรืออินดอร์สเตเดียม รัฐบาลอยากได้ เพราะเราจะได้ดึงนักท่องเที่ยวหรือคอนเสิร์ตระดับโลกมา เราตั้งสำนักงานดูแลเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพื่อกำกับดูแลเรื่องทุนเทา พนันผิดกฎหมาย
แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สัดส่วนของกาสิโนจะอยู่ที่ 10% ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า “ยังหารือกันอยู่ ยอมรับว่าเขียนในกฎหมายยาก เราไม่รู้ว่าสถานการณ์สังคมในอนาคตจะเป็นอย่างไร คนที่จะมากำกับดูแลในอนาคตมีโอกาสในการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจได้ในระดับหนึ่ง เราไม่อยากเขียนไปเพื่อจำกัดความคิดสร้างสรรค์ที่จะเกิดขึ้น เราเขียนการประกอบการไว้ 10 อย่าง ข้อที่ 10 คืออื่นๆ เพราะเราเองในฐานะคนเขียนกฎหมายเราไม่มีจินตนาการบรรเจิดจนคิดได้ทุกอย่าง จึงต้องเปิดโอกาสให้คนที่จะมาเสนอตัวได้คิดว่าจะเสนออะไรให้กับประเทศไทย ที่จะทำให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจและสังคม ข้อ 10 คำว่าอื่นๆ คือการเปิดโอกาสให้คนที่จะมาได้นำเสนอ”
ก็คือยังไม่ชัดเจนว่า จะออกแบบกาสิโนอย่างไร ต้องเริ่มจากการออกแบบรูปแบบกาสิโนก่อนออกกฎหมาย เมื่อบังคับใช้ หาคณะกรรมการมาบริหารจัดการ รัฐบาลพยายามให้เรื่องนี้เสร็จในปี 2570

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายหลังประชุมพรรค “รองโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า เราไม่เห็นด้วยกับบ่อนการพนันถูกกฎหมาย เพราะจะมีปัญหาด้านสังคม เศรษฐกิจตามมา อาจจะทำให้คนเสียรายได้ เป็นหนี้ครัวเรือนมากขึ้น ปัญหาอาชญากรรมจะตามมาอีก แต่ไม่อยากให้คนไทยมัวเมากับการพนัน การกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายวิธี โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลบอกว่ากาสิโนเป็นแค่ส่วนหนึ่ง มีพื้นที่แค่ 10% เหมือนกับประเทศสิงคโปร์ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า “อย่าไปหลอกชาวบ้านเลยครับ กฎหมายทั้งฉบับ พูดถึงเรื่องการตั้งกาสิโน เพราะกาสิโนคือหัวใจของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ รายได้กว่า 90% มาจากกาสิโน และบ่อนการพนัน เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นเพียงชื่อที่เอามาแอบอ้าง รัฐบาลอยากให้เกิด เพราะเขามองว่าเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจของเขา ไม่ใช่ของประเทศ เชื่อว่ามีคนได้ประโยชน์จากเรื่องเหล่านี้ กาสิโนถูกกฎหมาย มีโทษมากกว่าประโยชน์” นายชัยวุฒิ กล่าว
ปิดท้ายกันด้วยเรื่องร้อนๆ จากการเปิดบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินรายหนึ่งแจ้งรายได้จากการ “แขวนป้ายหมอ” คือให้ใช้ชื่อไปอ้างเป็นหมอประจำคลินิก รศ.(พิเศษ) นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ที่ทำก็เหมือนเจตนาหลอกลวงแพทย์ที่ไม่รู้กฎหมาย เช่น รับให้แขวนป้ายจะได้เดือนละ 10,000 บาท, 30,000 บาท หรือ 50,000 บาท และจะเซ็นสัญญาว่า ถ้าถูกร้องเรียนมาที่แพทยสภาจะไม่ต้องรับผิด เพราะทางผู้จัดดำเนินการจะจัดการปัญหาให้เอง หรือบอกว่าไม่ผิดกฎหมาย

“แพทยสภาชุดที่ผ่านมามีมติเป็นเอกฉันท์ในความผิดกรณีนี้ ตามประกาศแพทยสภาฉบับใหม่ ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 ก.พ. 2568 จะเริ่มตั้งแต่พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 1 ปีทันที หากทำผิดซ้ำครั้งที่ 2 หรือไปถึงครั้งที่ 3 แปลว่าไม่อยากเป็นแพทย์แล้ว หากนำชื่อตัวเองไปให้มีการเปิดคลินิกเถื่อน 3 ครั้งแล้ว ก็จะเพิกถอนใบอนุญาตฯ กฎหมายประกอบวิชาชีพเวชกรรม เป็นกฎหมายเฉพาะของแพทย์ที่ต้องรู้ แพทยสภาไม่อยากให้มีแพทย์โดนลงโทษเรื่องนี้ เรื่องแพทย์แขวนป้ายเป็นความผิดที่ถือว่ารุนแรงกว่าการโฆษณาเกินจริงของแพทย์ เนื่องจากเป็นต้นทางของหมอเถื่อน”
“เชื่อว่าคดีเกี่ยวกับเรื่องแพทย์แขวนป้ายจะลดลง หลังจากประกาศนี้มีผลบังคับใช้ในเดือน ก.พ. 2568 แม้แพทย์จะอ้างว่าไม่รู้ ไม่เจตนา แต่กฎหมายไม่ฟัง เช่นเดียวกับกรณีที่เภสัชกรแขวนป้าย สภาเภสัชกรรมได้มีประกาศพักใช้ใบอนุญาตกรณีเภสัชกรแขวนป้าย 2 ปี หลังมีผลบังคับใช้คดีแขวนป้ายลดลงทันที” รศ.(พิเศษ) นพ.เมธี กล่าว
หลัง 9 ก.พ.ก็น่าสนใจว่า คลินิกเสริมความงามที่ไหนจะมี “ป้ายหมอ” หายบ้าง
“ทีมข่าวการเมือง”