เมื่อวันที่ 26 ม.ค. จากกรณี สตม.ร่วมกับ DSI นำกำลังเข้าควบคุมตัว นายเดวิด สจ๊วต อาร์มิทาจ อายุ 62 ปี สัญชาติอังกฤษ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีหญิงไทยเสียชีวิตอย่างปริศนาที่อุทยานแห่งชาริยอร์คเชียร์เดลล์ ประเทศอังกฤษ เมื่อ ปี พ.ศ.2547 แต่ไม่มีหลักฐานว่าเป็นใคร แต่รูปร่างหน้าตาเป็นหญิงชาวเอเชีย จนได้รับสมญานามว่า สตรีแห่งขุนเขา จนกระทั่งปี 2547 นางจูมศรี สีกันยา และนายบัวสา สีกันยา แม่และพ่อชาวอุดรธานี ได้ทำหนังสือร้องขอไปที่สถานทูตให้ช่วยสืบหาจนทราบว่าผุ้เสียชีวิตคือ นางลำดวน สีกันยา ชาว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ส่วนนายเดวิด หรือ เดฟ ได้มาอยู่ที่ประเทศไทย โดยตำรวจสามารถควบคุมตัวได้ที่บ้านใน ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านโพน ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พบนางจูมศรี สีกันยา อายุ 79 ปี แม่นางลำดวน สีกันยา หลังทราบว่านายเดวิด หรือ เดฟ อดีตลูกเขยถูก ตม.และ DSI จับเป็นบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์ตามมาตรา 12(7) แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และได้อนุมัติเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร โดย นางจูมศรี กล่าวว่า มั่นใจว่านายเดฟ ลูกเขยเป็นคนฆ่าลูกสาว เพราะไปอยู่อังกฤษสองคน แต่กลับมาคนเดียว หลังจากทราบว่าลูกเสียชีวิต แต่ลูกเขยกลับมาอยู่ในเมืองไทย ไม่ให้ความร่วมมืออะไร ตนก็ได้แต่ปั้นหุ่นลูกเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูก เพราะยังไม่ได้อัฐิลูกกลับมา
ปิดคดี 20 ปี! ‘สตรีแห่งขุนเขา’ รวบสามีชาวอังกฤษต้องสงสัยฆ่า ‘ลำดวน สีกันยา’

“รอมา 22 ปี ถึงตอนนี้ก็ไม่คาดหวังว่าจะได้กระดูกกลับมาแล้ว ส่วนเรื่องคดีก็ให้เป็นไปตามเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพราะตอนนี้ตนปลงแล้ว ใครทำอะไรไว้ก็คงได้รับผลกรรมเช่นนั้นกลับมา และไม่ขออโหสิกรรมให้นายเดฟ ไม่ต้องมาติดต่อ ไม่ต้องมาหากันอีก เรื่องคดีความก็ให้ทางราชการเขาทำไป ยังไงผลกรรมก็ต้องได้รับอยู่แล้ว ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ซึ่งไม่เคยมีหน่วยงานไหนมาแจ้งว่าจับนายเดฟข้อหาอะไร”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการติดตามการทำงานของตำรวจอังกฤษและตำรวจไทย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีการเดินทางเข้ามาสอบปากคำยายจูมอยู่หลายครั้ง รวมทั้งการเข้ามาสอบปากคำนายเดวิด แต่ทราบว่ามีการเลื่อนหรือผิดนัด ซึ่งคดีสตรีแห่งขุนเขาก็ยังไม่มีความคืบหน้า กระทั่งมีข่าวจับกุมนายเดวิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่าการจับกุมครั้งนี้เกี่ยวข้องกับคดีหลักหรือไม่ หรือมีหมายจับจากหน่วยงานจากอังกฤษหรือไม่ ซึ่งมองว่าอาจจะยังไม่สิ้นสุดในคดีนี้ และยังไม่รู้ว่าความหวังของยายจูมที่จะได้กระดูกลูกสาวกลับบ้านจะเกิดขึ้นหรือไม่ เนื่องจากในทางลับมีข้อกฎหมายระหว่างประเทศที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นอุปสรรคในการทำงานพอสมควร