เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 68 นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) พร้อมด้วยนางจตุพร โรจนพานิช รองปลัด พม. และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่จังหวัดสตูล ณ โรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ เพื่อเปิดศูนย์ประสานงานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ส่วนหน้าเกาะหลีเป๊ะ โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความยากจนและการพัฒนาคนทุกช่วงวัย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในทุกมิติอย่างยั่งยืน ผ่านการทำงานร่วมกันกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนอย่างเป็นระบบ ดังนั้น กระทรวง พม. จึงร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน สำหรับการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาสังคม ผ่านกลไกต่างๆ เพื่อดูแลประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้ประสบปัญหาสามารถพึ่งพาตนเองได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในส่วนของเกาะหลีเป๊ะมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเล จะได้มีศูนย์ประสานงาน อพม. แห่งนี้ เป็นกำลังสำคัญ และเป็นศูนย์กลางการดำเนินงานด้านอาสาสมัครเชิงบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนครอบคลุมทุกมิติ ทุกช่วงวัย สามารถเข้าถึงสิทธิสวัสดิการสังคมขั้นพื้นฐาน พัฒนาตนเองไปสู่การพึ่งพาตนเองได้ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นายอนุกูล กล่าวว่า ขอขอบคุณ อพม. ซึ่งเป็นจิตอาสาเสียสละและทุ่มเทแรงกายแรงใจในการเข้ามาดูแลประชาชน และขอบคุณผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ ที่อนุเคราะห์สถานที่ในการจัดตั้งศูนย์ประสานงาน อพม. แห่งนี้ และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันขับเคลื่อนงานและส่งเสริมสนับสนุนกระบวนการมีส่วนร่วมของศูนย์ประสานงาน อพม. แห่งนี้ ให้สามารถจัดสวัสดิการสังคมและพัฒนาสังคมในระดับพื้นที่ได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ปลัดกระทรวง พม.และคณะยังได้มีการลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและติดตามการช่วยเหลือครัวเรือนเปราะบางในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ 2 ครัวเรือน ที่ประสบปัญหาทางสังคม ได้แก่ 1.ครัวเรือนที่มีผู้สูงอายุ อายุ 76 ปี เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล มีปัญหาสุขภาพ มีโรคประจำตัวหลายโรค ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ อาศัยอยู่กับหลาน 4 คน อายุ 6-27 ปี ครอบครัวฐานะยากจน มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการครองชีพ มีหนี้สินนอกระบบ และที่อยู่อาศัยมีสภาพทรุดโทรม ไม่มีความมั่นคง และ 2.ครัวเรือนที่มีผู้สูงอายุ 62 ปี พิการทางการมองเห็น ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ อาศัยอยู่กับพี่สาว อายุ 76 ปี ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ ครอบครัวฐานะยากจน มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการครองชีพ และที่อยู่อาศัยมีสภาพทรุดโทรม ไม่มีความมั่นคง.