เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ สถานการณ์โดยรวมเกินเกณฑ์มาตรฐานหลายจังหวัด โดยภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 13.1-86.1ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 39.5-91.1 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก 25.8-95.4 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก 39.2-116.5 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ 12.6-33.2 มคก./ลบ.ม. กทม.และปริมณฑล 33.6-82.2 มคก./ลบ.ม.
ข้อมูลจุดความร้อนจาก GISTDA ในประเทศไทย วันที่ 25 ม.ค. มีทั้งสิ้น 710 จุด แบ่งเป็น พื้นที่ป่า 311 จุด นาข้าว 151 จุด อ้อย 65 จุด ข้าวโพด 34 จุด เกษตรอื่นๆ 106 จุด และอื่นๆ 43 จุด จุดความร้อนประเทศกัมพูชา 978 จุด เมียนมา 537 จุด สปป.ลาว 326 จุด เวียดนาม 131 จุด
แนวโน้มพื้นที่ กทม.และปริมณฑล สถานการณ์ดีขึ้น ค่ารายชั่วโมงลดลง ภาพรวมยังเกินเกณฑ์มาตรฐาน ภาคกลางยังเป็นสีแดงในหลายจังหวัด ค่ารายชั่วโมงยังสูงอยู่ในหลายจังหวัด ภาคอีสานภาพรวมยังคงเกินเกณฑ์มาตรฐาน ค่ารายชั่วโมงลดลงในหลายจังหวัด ภาคตะวันออกสถานการณ์ดีขึ้น มีเพียง จ.ปราจีนบุรีที่เป็นสีแดง ภาคเหนือตอนบน ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหลายจังหวัด แต่ภาคเหนือตอนล่างยังเกินเกณฑ์มาตรฐาน จ.สุโขทัยยังเป็นสีแดง อัตราการระบายอากาศของ กทม. มีแนวโน้มสูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. ภาคอีสานมีแนวโน้มสูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. แนวลมของประเทศไทยค่อนข้างแปรปรวน โดยเป็นลมทิศใต้และตะวันออกเฉียงใต้
สรุป สถานการณ์ฝุ่นละอองทุกพื้นที่ของประเทศไทย มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังวันที่ 27 ม.ค. เป็นต้นไป เนื่องจากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่เอื้อต่อการระบายอากาศมากยิ่งขึ้น ลมที่พัดค่อนข้างแรง ประกอบกับอัตราการระบายอากาศที่เพิ่มสูงขึ้น จะช่วยระบายฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ได้ ส่งผลให้สถานการณ์ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังวันที่ 29 ม.ค. 68 พื้นที่ กทม. อาจต้องเฝ้าระวังอีกครั้งเนื่องจากอัตราการระบายอากาศที่ต่ำลงแต่ประเมินแล้วจะไม่รุนแรงเท่าสัปดาห์ที่ผ่านมา
คำแนะนำทางสุขภาพ ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ถ้ามีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ โดยสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK.