เมื่อวันที่ 26 ม.ค. น.ส.เดือน (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี พร้อมด้วย ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ขวบ ลูกสาว และ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 12 ขวบ เพื่อนลูกสาว เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังถูกชายคนหนึ่งลวนลามลูกสาวและเพื่อนในร้านสะดวกซื้อ หลังเกิดเหตุพลเมืองดีช่วยจับตัวชายคนดังกล่าวไว้ได้ เหตุเกิดที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 22.40 น.

โดยคลิปจากกล้องโทรศัพท์มือถือบันทึกภาพที่เกิดเหตุบริเวณด้านหลังร้านนวดแห่งหนึ่งบนถนนแจ้งวัฒนะ มีพนักงานร้านดังกล่าวช่วยกันจับตัวชายเสื้อฟ้า สวมแว่นเอาไว้ได้ ภายหลังก่อเหตุลวนลามเด็กสาวได้วิ่งหนีเข้าไปที่ด้านหลังร้าน โดยมี นายต้น (นามสมมุติ) พ่อของ ด.ญ.เอ วิ่งตามไปพร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ให้มาจับตัว โดยระหว่างที่กำลังสอบปากคำ น.ส.เดือน แม่ของเด็กได้ตะโกนด่าทอด้วยความโกรธ และวิ่งเข้าไปตบและถีบชายคนดังกล่าว

ทั้งนี้ น.ส.เดือน แม่ของด.ญ.เอ กล่าวว่า ลูกสาวเคยโดยชายคนนี้ลวนลามมาแล้วครั้งหนึ่ง น้องวิ่งมาบอกจึงรีบไปดูเพื่อจับตัวเขา แต่เขาก็วิ่งหนีแบบครั้งนี้ ซึ่งตนจำหน้าเขาได้ ครั้งนี้ลูกวิ่งไปบอก พอเห็นหน้าก็จำได้ เขาก็วิ่งหนีอีก ตนและสามีจึงวิ่งไล่จับอยู่นาน หลังจับตัวได้จึงสอบถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เขาก็ไม่ตอบจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันจะเอาเรื่องตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับใครอีก

ขณะที่ นายต้น พ่อของ ด.ญ.เอ กล่าวว่า ลูกวิ่งมาบอกว่าถูกลวนลาม ตนเห็นชายคนก่อเหตุวิ่งหนีอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านสะดวกซื้อ จึงรีบวิ่งข้ามถนนตามไป วิ่งไปประมาณ 1-2 กม. จากนั้นชายคนก่อเหตุได้วิ่งข้ามถนนมาที่ร้านนวด จึงจับตัวได้ หลังจับได้ตนก็ถามเขาว่าทำทำไม เขาไม่ยอมตอบอะไร

ด้าน ด.ญ.บี กล่าวว่า พวกตนชวนกันไปหาซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อ ระหว่างที่เดินไปตรงโซนขนม เจอคนก่อเหตุยืนเลือกขนมอยู่ ขณะที่ตนและเพื่อนกำลังจะเดินผ่าน เขาก็เอามือลูบที่ต้นขาของตนและขาของเพื่อน ด.ญ.เอ จึงรีบออกจากร้านไปบอกแม่ ส่วนตนยืนคอยดูอีกฝ่าย ซึ่งเขาก็มองมาที่ตนด้วยท่าทางแปลก ๆ ตอนแรกที่เขาจับขาคิดว่าเขาเผลอมาโดน แต่ ด.ญ.เอ บอกว่า เขาเคยจับหน้าอกมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้จดจำใบหน้าผู้ก่อเหตุได้
ด.ญ.เอ กล่าวว่า ก่อนหน้าเมื่อปลายปี 65 เคยเจอชายคนดังกล่าวที่ร้านสะดวกซื้อ และเขาก็ใช้แขนมาชนที่หน้าอก ตอนนั้นก็ไปบอกแม่ แต่ไม่ได้แจ้งความ ส่วนครั้งนี้หลังถูกจับต้นขา ได้วิ่งไปบอกแม่ที่บ้านซึ่งอยู่ใกล้ร้านสะดวกซื้อ เมื่อแม่มาถึงจึงถามเขาว่าทำอะไร แต่เขาปฏิเสธ แม่จึงจะไปเปิดกล้องวงจรปิด ชายคนดังกล่าวจึงวางขนมไว้ที่เคาน์เตอร์แล้ววิ่งหนีไปทันที ทำให้พ่อวิ่งตามไปจนจับตัวเอาไว้ได้
เบื้องต้นผู้ก่อเหตุไม่ยอมให้การแต่อย่างใด บอกให้ตำรวจไปดูกล้อง อีกทั้งยังไม่ให้ข้อมูลทั้งชื่อและนามสกุล จึงควบคุมตัวไปตรวจปัสสาวะ แต่ไม่พบว่ามีสารเสพติด จากนั้นได้นำตัวส่งห้องควบคุมเพื่อรอพิมพ์ลายนิ้วมือหาประวัติ และประสานญาติก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.