เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 68 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์และการปฏิรูประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ออกมาระบุว่า กระทรวงมหาดไทยเพิกเฉยไม่งดจ่ายไฟฟ้าให้กับบริษัทคู่สัญญาในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เป็นแบตสำรองให้กับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นั้น ว่า ข้อเท็จจริง เรื่องนี้ หากได้ศึกษารายละเอียดจริงๆ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ไม่เคยเพิกเฉย ซึ่งเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการ กฟภ. ครั้งที่ 1/2568 ในวาระประชุม กฟภ. มีประเด็นที่ชัดเจนว่า กฟภ.ไม่อาจงดจ่ายไฟฟ้าโดยพลการได้ เพราะมีผลกระทบต่อคู่สัญญา การงดจ่ายไฟฟ้าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง ไม่ใช่อำนาจของกระทรวงมหาดไทยโดยตรง ทั้งนี้ กฟภ.เตรียมนำเสนอเพื่อขอแนวทางในการปฏิบัติในการงดการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับประเทศใกล้เคียงที่เกี่ยวข้องกับความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ ต่อ ครม. ในเร็วๆ นี้
นายคารม กล่าวว่า การที่นายรังสิมันต์ออกมาพูดให้สัมภาษณ์และพูดในเวทีหาเสียง อบจ. กล่าวหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ว่าเพิกเฉยต่อการดำเนินการของ กฟภ. ตนเองในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ต้องขอเรียนว่านายรังสิมันต์ ซึ่งเป็นถึงประธาน กมธ. จะต้องระมัดระวังการพูดให้มาก การพูดให้สัมภาษณ์กับสื่อและบนเวทีปราศรัยไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เป็นประธาน กมธ.ความมั่นคง น่าจะรู้ว่า กระทรวงมหาดไทย เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความมั่นคงแนวชายแดน การพูดในลักษณะดังกล่าว ทำให้นายอนุทิน เสียหาย ขอเตือนให้ระมัดระวัง แนะนำให้ศึกษาข้อกฎหมายและเรื่องอื่นที่เขาทำสัญญาไว้ให้ดี การขายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้านนั้น กฟภ. ทำตามมติ ครม. มาตั้งแต่ปี 39 ที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเสนอ
“นายอนุทิน ไม่เคยนิ่งดูดาย หรือเพิกเฉยกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและทำตามนโยบายของรัฐบาลทุกอย่าง ปัญหาของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและสร้างความเสียหายกับประเทศอย่างมาก สิ่งไหนที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ นายอนุทินจะดำเนินการทันที เช่น การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งแก้ไขปัญหาทันที” นายคารม กล่าว.