จากกรณี เกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดไปป์บอมบ์ บ้านพ่อแม่ของ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรี รมว.วัฒนธรรม ภายในซอยรามอินทรา 67 แยก 6 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (24 ม.ค. 68) ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุด เวลา 13.00 น. วันที่ 25 ม.ค. พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว เดินทางไปที่บ้านเกิดเหตุเลขที่ 555 ซอยรามอินทรา 67 แยก 6 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. บ้านพ่อแม่ของนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ พบนายพลภูมิ กำลังยืนพูดคุยกับบิดาถึงเหตุการณ์เกิดขึ้น นอกจากนี้ตรงจุดเกิดเหตุมีการเก็บกวาดทำความสะอาดคราบเขม่าพื้นกระเบื้องและร่องรอยดินบริเวณสวนหย่อม เรียบร้อยแล้ว หลังเจ้าหน้าที่มาเก็บหลักฐานแล้ว

นายพลภูมิ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายคนเดียว สวมหมวกกันน็อกใส่แมสก์ขี่รถ จยย. ทะเบียน 893 มองไม่เห็นหมวดจังหวัด ไฟท้ายรถสะท้อนแสง มาวนดูไปมาหน้าบ้าน 2-3 รอบ ก่อนขว้างระเบิดเข้าไปในบ้าน เชื่อว่าเป็นการข่มขู่

นอกจากนี้เมื่อประมาณ 18.10 น. วันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา มีคนร้ายรูปพรรณลักษณะเดียวกัน ใช้พาหนะรถ จยย. ปาระเบิดปิงปองดังสนั่นลงด้านหน้าสำนักงานใหญ่บริษัทยูพีดี ริมถนนรามอินทรา แขวงและเขตมีนบุรี กทม. พื้นที่ สน.มีนบุรี กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ชัดเจน เหตุการณ์นี้ยังไม่ได้แจ้งความ และมาเกิดเหตุการณ์ร้ายที่บ้านพ่อแม่อีก

นายพลภูมิ กล่าวอีกว่า เรื่องความขัดแย้งนั้น ตอนนี้มุ่งไปที่ประเด็นพ่อแม่ปล่อยให้เช่าอาคาร หน้าสำนักงานเขตคันนายาว มี รปภ. ของสำนักเขตคันนายาว อดีตทหารผ่านศึกเป็นผู้เช่าและให้เมียขายอาหารตามสั่ง แต่เมื่อช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา แม่ตนได้มีการปรับปรุงอาคารใหม่ และเพิ่มค่าเช่ามากขึ้นกว่าเดิม ผัวเมียคู่นี้สู้ราคาไม่ไหว จึงมีผู้เช่ารายใหม่เข้ามาเช่าแทน อาจทำให้เกิดความไม่พอใจ

นายพลภูมิ เผยต่ออีกว่า หลังเกิดเหตุการณ์ครั้งที่ 2 เจ้าหน้าที่ติดตามไปพบ รปภ. คนดังกล่าว แต่รูปพรรณสัณฐานไม่ตรงกับกล้องวงจรปิดกับชายที่ก่อเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งไล่ตรวจสอบกล้องปิด ล่าสุดพบเห็นคนร้ายขี่รถ จยย. ผ่านหน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์มุ่งหน้าไปทางมีนบุรี

นายพลภูมิ กล่าวว่า ตนเล่นการเมืองไม่ทะเลาะกับใคร ไม่มีปัญหาเรื่องการเมือง ด้านปัญหาชู้สาวของตนก็ไม่มี บ้านหลังนี้ตนก็ไม่ได้พักอาศัย และที่ผ่านมาพ่อแม่ทำธุรกิจก็ไม่เคยขัดแย้งกับใคร

พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งไล่ตรวจกล้องวงจรปิดของคนร้ายก่อนและหลังก่อเหตุ รวมทั้งตรวจสอบทะเบียนรถพาหนะก่อเหตุ เบื้องต้นจะให้สายตรวจเพิ่มความถี่มาตรวจที่บ้านและติดตู้แดง ส่วนมูลเหตุยังไม่สามารถตอบได้มุ่งไปทุกประเด็น

ด้าน พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เร่งล่าตัวคนผู้ก่อเหตุโดยเร็ว เพราะเหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และอาจส่งผลให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บอันตรายอีกด้วย ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการไล่กล้องวงจรปิด ทั้งก่อนก่อเหตุและหลังก่อเหตุ เส้นทางที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี เบื้องต้นพบผู้ก่อเหตุเพียง 1 ราย โดยภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายได้ขี่จักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน สวมเสื้อสีน้ำเงิน พร้อมกับสวมหมวกกันน็อกเพื่อปิดบังใบหน้า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวคนร้าย และคาดว่าจะติดตามจับกุมได้ในไม่ช้านี้