เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ จ.ศรีสะเกษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหา ฝุ่น PM 2.5 ที่ วิกฤติหนักในช่วงนี้ ว่า เราต้องยอมรับว่าการเผาเพื่อการเกษตร มีมาอย่างต่อเนื่องและไม่ยอมหยุดยั้ง ซึ่งมาตรการก็ยังไม่ได้รับการดูแลกันเท่าที่ควร นับตั้งแต่ประเทศเพื่อนบ้านก็มี ประเทศเราก็เยอะ คราวก่อนก็มีการเผาอ้อย เกิดฝุ่นละอองเยอะมาก ฉะนั้น วันนี้เราต้องร่วมมือกัน และรัฐบาลได้สั่งการไปว่า ให้ทุกเขตกวดขันเรื่องการเผาในที่โล่ง ไม่ว่าจะเป็นการเผาซังข้าว ข้าวโพด หรือ อ้อย ถ้าคุยกันไม่เข้าใจไม่รู้เรื่อง ก็อาจจะต้องใช้กฎหมาย รวมถึงหยุดการช่วยเหลือจากภาครัฐ และโรงงานน้ำตาลก็ต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบ เพราะส่วนใหญ่ชาวไร่อ้อย ก็เป็นลูกไล่ของโรงงานน้ำตาลทั้งนั้น ก็ต้องมาช่วยร่วมรับผิดชอบ และเมื่อไม่เผา เกษตรกรก็อาจจะมองว่าเพิ่มต้นทุน ซึ่งโรงงานน้ำตาลหลายแห่ง ก็มีโรงงานไบโอแมส ก็น่าจะให้เขาตัดใบมาขายดีกว่าเผา และนายกฯ สั่งให้ ไอซีที จัดเร่งทำแอปพลิเคชันเพื่อให้คนแจ้งการเผาในทุกพื้นที่ และให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไประงับโดยด่วน
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ส่วนในกรุงเทพฯ ขณะนี้ เนื่องจากอากาศปิด ลมไม่พัดควันออกไป นายกฯ ก็สั่งมาตรการ 7 วัน ให้ประชาชนใช้รถส่วนตัวให้น้อยลง โดยมาใช้บริการสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าหรือรถเมล์ โดยจัดให้มีการใช้บริการฟรี 7 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. ซึ่งผลพลอยได้จะดูว่าค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะได้ผลหรือไม่ อยากให้ประชาชนใช้บริการรถสาธารณะ และมีการขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กวดขันรถควันดำ อย่างเข้มข้นและเคร่งครัด และไซต์ก่อสร้างที่มีฝุ่น ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ก็ต้องสั่งให้หยุดการก่อสร้าง ซึ่งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ให้ความร่วมมือเรื่องนี้เป็นอย่างดี และนายกฯ ยังมีสั่งการให้กรมฝนหลวง ถ้าความชื้นพอ ให้ขึ้นไป ก็ทำฝนเทียมด้วย เพื่อให้ลดมลพิษฝุ่นในกรุงเทพฯ
เมื่อถามถึงกรณีที่ในโซเซียลมีเดียระบุว่าพรรคเพื่อไทยแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นช้าไปหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเยอะกว่าที่เราคิด และความร่วมมือในการป้องกันยังไม่ดีพอ ในต่างจังหวัดยังมีการเผา ส่วนกรุงเทพฯ เป็นปัญหาเฉพาะหน้า ที่ต้องแก้เฉพาะหน้า
เมื่อถามถึงกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชนและผู้นำฝ่ายค้าน ก็ออกมาเหน็บ นายกรัฐมนตรีว่าไปสูดอากาศที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นายทักษิณ กล่าวว่า “อ่อ ภารกิจมีหลายอย่าง ผู้นำฝ่ายค้านมีภารกิจเดียวคือค้านในสภา ฉะนั้นภารกิจนายกฯ เยอะกว่า ก็ต้องว่าไป”