สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปานามาซิตี ประเทศปานามา เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ว่ากระทรวงการต่างประเทศปานามายื่นหนังสือถึงนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) โดยอ้างถึงเนื้อหาในกฎบัตรของยูเอ็น ว่าสหประชาชาติ “ต้องขัดขวาง” สมาชิกประเทศใดก็ตาม จากการ “ข่มขู่ที่จะใช้มาตรการทางทหาร” เพื่อคุกคามอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน หรือเอกราชทางการเมืองของประเทศอื่น


ทั้งนี้ รัฐบาลปานามาเรียกร้องให้กูเตร์เรสยื่นคำร้องต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) แต่ไม่ได้ระบุอย่างเจาะจง ว่ายูเอ็นเอสซีควรมีการประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับสถานการณ์ในคลองปานามา


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของทางการปานามาเกิดขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ยังคงกล่าวว่า จีนกำลังเข้ามาบริหารคลองปานามา “โดยพฤตินัย” จากการที่มีบริษัทจัดการท่าเรือหลายแห่งอยู่บนเส้นทาง พร้อมทั้งกล่าวว่า สหรัฐมอบคลองปานามาให้เป็นกรรมสิทธิ์ของปานามา เมื่อปี 2542 “ไม่ได้มอบให้จีน” จึงถึงเวลาที่ต้อง “เอาคืนแล้ว”


ด้านประธานาธิบดีโฮเซ มานูเอล มูลิโน ผู้นำปานามา กล่าวว่า คลองปานามา “ไม่ใช่ของขวัญ” จากสหรัฐ คลองแห่งนี้เป็นของปานามา อยู่ภายใต้การบริหารปานามาเพียงผู้เดียว และจะเป็นของปานามาตลอดไป


ขณะที่นางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่งมีความเคารพต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของปานามา รวมถึงคลองปานามา ที่เป็นเส้นทางเดินเรือระหว่างประเทศ “ซึ่งมีความเป็นกลาง”

ปัจจุบัน 40% ของเรือบรรทุกสินค้าสหรัฐ ต้องเดินทางผ่านคลองปานามา ซึ่งทรัมป์แสดงความไม่พอใจมานานระยะหนึ่งแล้ว ว่าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมผ่านทาง “ที่ไม่เป็นธรรม” แต่รัฐบาลปานามาปฏิเสธ โดยยืนกรานว่า ปฏิบัติแบบเดียวกันกับทุกประเทศ.

เครดิตภาพ : AFP