สำนักข่าวซินหัวรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ว่าแถลงการณ์ร่วมระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและครอบครัวของสิงคโปร์ ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เป็นต้นไป ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนจะบังคับใช้กฎฉบับปรับปรุง ซึ่งสั่งห้ามการใช้หน้าจอสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 เดือน และจำกัดการใช้หน้าจอเฉพาะในการเรียนการสอน สำหรับเด็กอายุ 18 เดือนถึง 6 ปี
ทางการจะแนะนำผู้สอน มุ่งให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่มีความหมาย มากกว่าการทำกิจกรรมเนือยนิ่ง เช่น การใช้หน้าจอเป็นเวลานานหรือการนั่งเฉย ๆ
ด้านโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาได้นำมาตรการที่คล้ายคลึงนี้มาใช้ โดยกำหนดให้นักเรียนเก็บโทรศัพท์ในส่วนที่กำหนด ระหว่างทำการเรียน และจำกัดการใช้เครื่องมือสื่อสาร ให้อยู่ในช่วงเวลาหรือสถานที่ที่กำหนด เช่น ในช่วงพักหรือหลังเลิกเรียน
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับเปลี่ยนคำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง โดยขอให้เด็กอายุ 3-6 ปี ใช้เวลาผ่านหน้าจอไม่เกินวันละ 1 ชั่วโมง และเด็กอายุ 7-12 ปี ใช้เวลากับหน้าจอไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง อย่างไรก็ดี ช่วงเวลาดังกล่าวไม่นับรวมการบ้าน พร้อมทั้งกระตุ้นให้ผู้ปกครองจำกัดการเข้าถึงอุปกรณ์มือถือ และการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของเด็ก
มาตรการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “โกรว์ เวลล์ เอสจี” (Grow Well SG) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ส่งเสริมสุขภาพระดับชาติใหม่ที่เปิดตัวรวมกันโดยกระทรวงทั้งสามแห่ง มุ่งส่งเสริมวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพและการดูแลป้องกันสำหรับเด็ก โดยให้ความสำคัญกับการปรับปรุงด้านโภชนาการ พฤติกรรมการนอน ประสบการณ์การเรียนรู้ และกิจกรรมทางร่างกาย เบื้องต้นมุ่งเน้นไปที่เด็กอายุ 12 ปีหรือต่ำกว่า แต่มีแผนที่จะขยายไปยังกลุ่มอายุอื่นมากขึ้นในอนาคต.
ข้อมูล : XINHUA
เครดิตภาพ : AFP