สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันจำเป็นต้องเร่งแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้า ที่กำลังเกิดขึ้นกับสหภาพยุโรป ( อียู ) เนื่องจากอีกฝ่ายยังคงไม่นำเข้าผลิตภัณฑ์ของอเมริกา “ในระดับที่เพียงพอ” โดยเฉพาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ หากยังไม่มีความเปลี่ยนแปลง จะทำให้สหรัฐ “มีความจำเป็น” ต้องขึ้นภาษีกับอียู
Trump says 10% tariff for China because of fentanyl.
— Stephen Taylor (@stephen_taylor) January 21, 2025
Goes on to say 25% for China and Mexico on February 1st. pic.twitter.com/v3I6v443z9
ขณะเดียวกัน ทรัมป์กล่าวว่า จะขึ้นภาษีสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นจากอัตราเดิมอีก 10% โดยอาจเป็นวันที่ 1 ก.พ. นี้ “อ้างอิงจากความจริงที่ว่า จีนเป็นประเทศซึ่งส่งออกเฟนทานิลไปยังแคนาดาและเม็กซิโก” พร้อมทั้งย้ำว่า การขึ้นภาษีสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ในอัตรา 25% จะเกิดขึ้นเร็วที่สุดในวันที่ 1 ก.พ. เช่นกัน
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์จีนส่งสัญญาณชัดเจนว่า “พร้อมรับมือ” กับเรื่องนี้ แม้ยังไม่ได้ประกาศมากนักว่าจะทำอย่างไร โดยสมัยที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก ระหว่างปี 2560-2564 รัฐบาลวอชิงตันในเวลานั้นขึ้นภาษีสินค้าจากจีน เป็นมูลค่าสูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 10.2 ล้านล้านบาท ).
เครดิตภาพ : AFP