บางคนโกรธเคืองเรื่องเล็กน้อย บางคนเกิดโกรธเคืองเรื่องความเป็นความตาย ทุกครั้งที่โกรธ ไม่เพียงแต่จะอารมณ์เสียเท่านั้น มันยังส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือดของเราอีกด้วย
งานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ความโกรธสามารถทำลายการทำงานของเยื่อบุผนังหลอดเลือดได้ ความเสียหายต่อเอนโดทีเลียมของหลอดเลือด เป็นปัจจัยเบื้องต้นที่นำไปสู่การทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัว เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง
การศึกษานี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร American Heart Association ของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ด้วยการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงจำนวน 280 คน อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 26 ปี ขอให้พวกเขาเข้าร่วมในงานวิจัยด้านอารมณ์ที่แตกต่างกัน 4 ช่วงเวลา ซึ่งกินเวลานาน 8 นาที ดังต่อไปนี้
- นึกถึงสิ่งที่ทำให้พวกเขาโกรธ
- นึกถึงสิ่งที่ทำให้พวกเขากังวล
- อ่านบทความเชิงลบ
- นับเลขหนึ่งถึง 100 ซ้ำๆ เพื่อดึงอารมณ์ให้กลับมาคงที่
นักวิจัยทดสอบผลกระทบของอารมณ์ต่างๆ ต่อเยื่อบุผนังหลอดเลือดของผู้เข้าร่วม ผลการทดลองพบว่า จากการนึกถึงสิ่งที่โกรธเพียง 8 นาที ภาวะหลอดเลือดขยายผิดปกติมีผลอยู่ต่อเนื่องนานถึง 40 นาที เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง
หลังจากอ่านการศึกษานี้แล้ว คุณยังกล้าที่จะโกรธหรือไม่?
แม้ว่าทุกคนจะแสดงพฤติกรรมแตกต่างกันเมื่อโกรธ บางคนโกรธมาก บางคนโกรธจนร้องไห้ และอื่นๆ แต่ทุกครั้งที่โกรธ เหมือนกับ “แผ่นดินไหว” ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างรุนแรง และสร้างความเสียหายต่อร่างกายอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ในพริบตา
- ความโกรธมีผลต่อหัวใจ
หลายๆ คนคงเคยประสบกับอาการ “แน่นหน้าอก” และ “เจ็บหัวใจ” อันเนื่องมาจากความโกรธ
เมื่อคุณโกรธ ระบบประสาทซิมพาเทติกจะกระตุ้นให้มีการหลั่ง “คาเทโคลามีน” ออกมาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น การใช้ออกซิเจนของกล้ามเนื้อหัวใจเพิ่มขึ้น และการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดหัวใจผิดปกติ ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดชั่วคราว
ความดันโลหิตสูง เมื่อคุณโกรธหรืออารมณ์แปรปรวน อาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะและปวดศีรษะ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้
การศึกษาแสดงให้เห็นว่า ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากโกรธ ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น 3 เท่า และความเสี่ยงต่อการเกิดอาการหัวใจวายเพิ่มขึ้น 5 เท่า
- ความโกรธมีผลต่อสมอง
บางคนอาจมีประสบการณ์ เวลาที่โกรธเป็นพิเศษ “สมองจะว่างเปล่า”
เนื่องจากความโกรธสามารถทำให้เกิดอาการคั่งของเลือดในสมอง ส่งผลต่อการใช้ความคิด ทำให้หน้าแดง เวียนศีรษะ อาจถึงขั้นเป็นลมและเลือดออกในสมองได้ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ และนำไปสู่การสูญเสียความทรงจำอีกด้วย
ทุกครั้งที่คุณโกรธ หัวใจของคุณจะเต้นเร็วขึ้น แรงบีบตัวของหัวใจจะเพิ่มขึ้น ความดันโลหิตจะเพิ่มขึ้น เลือดจะข้นขึ้น เลือดจำนวนมากจะไหลไปที่สมองและใบหน้า ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดออกซิเจนได้
- โกรธจนเหมือนอกจะระเบิด
บางคนอธิบายอาการ “โกรธ” ว่ารู้สึกเหมือนอกจะระเบิด นี่ไม่ได้เป็นการพูดเกินจริง ในทางคลินิกเรียกภาวะนี้ว่า “ภาวะปอดรั่วแบบไม่ทราบสาเหตุ”
เมื่อโกรธหรือทะเลาะกัน ระบบประสาทซิมพาเทติกจะตื่นตัวและหายใจเร็วขึ้น ซึ่งอาจทำให้ปอดรั่วได้ ความตื่นเต้นทางอารมณ์สามารถนำไปสู่การเกิดโรคปอดรั่วแบบไม่ทราบสาเหตุได้
เมื่อคุณรู้สึกเจ็บที่ปอด เนื่องจากความโกรธ อาจเป็นเพราะความตื่นเต้นทางอารมณ์ทำให้ปอดของคุณหายใจเร็วขึ้น แรงดันในปอดเพิ่มขึ้น และผนังเยื่อหุ้มปอดแตก ทำให้เกิดโรคปอดรั่ว และความโกรธยังทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ปวดเส้นประสาทระหว่างซี่โครงได้
แน่นอนว่าสาเหตุของโรคปอดรั่วมีหลายประการ การโกรธเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้ปอดรั่วได้ แต่การโกรธอาจทำให้หายใจเร็วขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคปอดรั่วมากขึ้น
เพราะฉะนั้น ควรควบคุมอารมณ์ไม่ให้โกรธง่าย และโกรธรุนแรง เพราะอาจส่งผลร้ายแรงต่อร่างกายของเราได้ชนิดคาดไม่ถึง.
ที่มาและภาพ : sohu, freepik, AI