เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 68 ที่รัฐสภา นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา พร้อมคณะแถลงข่าวเรื่อง “ขอให้รัฐบาลเร่งรัดแก้ไขปัญหาการปิดกั้นการนำเข้าน้ำเชื่อมไทยเข้าสู่จีน” ว่า เนื่องจากจีนประกาศระงับการนำเข้าน้ำเชื่อมไทย ตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. 67 โดยงานความปลอดภัยด้านอาหารส่งออก-นำเข้าของจีน (GACC) อ้างว่า ตรวจพบมีความเสี่ยงทางด้านความปลอดภัยของอาหารและไม่สอดคล้องกับข้อบังคับและกฎระเบียบของจีน หลังจากที่ GACC ได้รับการร้องเรียนว่าโรงงานผู้ผลิตน้ำเชื่อม น้ำตาลผสมบางแห่งมีสุขอนามัยไม่ได้เกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยอาหารแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้ผู้ประกอบการที่ผลิตส่งออกน้ำเชื่อม/น้ำตาลผสมล่วงหน้าไปยังจีนได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่งระงับการนำเข้าของ GACC มาก เนื่องจากไม่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้ามาก่อน ส่งผลให้น้ำเชื่อม/น้ำตาลผสมที่ส่งออกจากไทยไปยังจีน ลอยลำอยู่กลางทะเล ขณะนี้ก็ยังนำเข้าจีนไม่ได้ สินค้าค้างอยู่ระหว่างการเดินทางคิดเป็นมูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท นอกจากนี้ระยะเวลาในการรักษาคุณภาพสินค้า 60 วัน ซึ่งจะครบกำหนด 60 วัน ในวันที่ 9 ก.พ.นี้ ซึ่งเหลือ 18 วัน จะสร้างความเสียหายเพิ่มมากขึ้น

นายวิวรรธน์ กล่าวว่า กมธ.การพาณิชย์ฯ จะยื่นข้อหารือและข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล 3 เรื่อง ดังนี้ 1. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้รับรองผลมาตรฐานน้ำเชื่อมไทยที่จะส่งผลมาตรฐานโรงงานไทยให้ GACC ดำเนินการตรวจสอบโรงงานไทย หากตรวจพบโรงงานใดไม่ได้มาตรฐานให้รีบดำเนินการแก้ไข เพื่อจะได้มาตรฐานและส่งออกไปจีนได้ 2. รัฐบาลควรมีการบูรณาการหลายภาคส่วน อาทิ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขตปลอดอากร กระทรวงการคลัง ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร่งด่วน และ 3. ประเทศไทยต้องมีการกำกับมาตรฐานสินค้าต่างๆ ส่งออก เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสำหรับสงครามการค้าจากนอกประเทศ เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยเข้มแข็ง และเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนน้อยที่สุด.