สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ว่า คำขู่ของทรัมป์ที่จะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้า ทำให้บรรดาผู้นำของอียู กังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ขณะที่การแข่งขันกับจีน ผลักดันให้กลุ่มประเทศยุโรปแสวงหาการค้ากับประเทศพันธมิตรอื่น ๆ มากขึ้น

นางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กล่าวในแถลงการณ์ว่า การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับมาเลเซีย ถือเป็นข่าวดีมาก และเกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญ ซึ่งความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และความเสี่ยงของความไม่มั่นคง เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อนึ่ง ฝ่ายบริหารอียูในกรุงบรัสเซลส์ และรัฐบาลกัวลาลัมเปอร์ เริ่มการเจรจาข้อตกลงการค้าเมื่อปี 2553 แต่การเจรจาดังกล่าวถูกระงับในปี 2555

ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซีย ซึ่งเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนกรุงบรัสเซลส์เป็นเวลา 2 วัน เรียกการเจรจาครั้งใหม่ว่าจะเป็น “ก้าวสำคัญ” ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับอียู พร้อมกับเสริมว่า ข้อตกลงการค้าข้างต้น อาจปลดล็อกผลประโยชน์มหาศาลในหลายภาคส่วนของเศรษฐกิจมาเลเซีย ควบคู่กับการเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานโลกในภาคส่วนสำคัญ

ขณะเดียวกัน ฟอน แดร์ เลเยน กล่าวว่า ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างยุโรปกับมาเลเซีย จะยกระดับความสัมพันธ์ทางการค้าของทั้งสองฝ่ายขึ้นไปอีกขั้น.

เครดิตภาพ : AFP