“อดีตนายกฯ แม้ว” ทักษิณ ชินวัตร สร้างความคึกคักตลอดสุดสัปดาห์ วันที่ 19 ม.ค. ไปหาเสียงช่วย ว่าที่ ร.ต.ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น ผู้สมัครนายก อบจ.บึงกาฬ หาเสียงและอ้อนว่า เลือกตั้ง สส.ต้องขอเพื่อไทย 3 เขต จากนั้นอดีตนายกฯ ก็พูดถึงโครงการต่างๆ ที่เชื่อมกับโลกาภิวัตน์ อาทิ การที่สหรัฐอเมริกายอมรับเงินคริปโตที่มีหลักทรัพย์รองรับ ถ้าไทยตามทันจะเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น จะเร่งสร้างบ้านเพื่อคนไทยให้เร็วที่สุด 1 แสนยูนิต ปีหน้าอีก 1 แสนยูนิต และให้โรงงานอ้อยรับผิดชอบเรื่องฝุ่น PM 2.5 จากการเผาอ้อย หลังจากนี้อีกไม่กี่เดือน นโยบายต่างๆ ของรัฐบาลจะโป้งป้าง

“นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ประกาศแล้วว่า ปีนี้จะจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ภายในสิ้นปีนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดต้องหมดไป ได้เจรจาไปยังทางปอยเปตและเมียวดี เมียนมาแล้ว เพื่อขอความร่วมมือ ในปีนี้ต้องหมด ในปี 70 รัฐบาลเพื่อไทยกลับมาอีกรอบ ประชาชนจะเอามือล้วงกระเป๋าไม่ได้เพราะมีเงินอยู่เต็ม หนึ่งทุนหนึ่งอำเภอไปเรียนเมืองนอก กลับมา นายกฯ อิ๊งค์จะเดินหน้าโครงการซัมเมอร์แคมป์ไปที่ต่างประเทศ จ้างครูจากต่างประเทศมาสอนภาษา มาสอนเอไอ ปีนี้จะเริ่มทำและสร้างโรงเรียนหนึ่งตัวอย่าง หนึ่งอำเภอในฝันต่อไป ให้เด็กไทยมีความรู้มากๆ จะได้ฉลาด

ก่อนหน้านี้ ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย ของพรรคเพื่อไทยไอเดียดีมาก วางแผนว่า หนึ่งตำบลให้มีโดรนหนึ่งตัว เพื่อพ่นยาฆ่าแมลง ฉีดปุ๋ย พ่อเฒ่าแม่เฒ่าจะได้ไม่ต้องสูดเอาสารพิษ และจะได้ใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงน้อยลง เวลามีไฟไหม้หรือหมอกควัน โดรนเหล่านี้ก็จะได้บินขึ้นพ่นน้ำ ซึ่งใช้งบประมาณไม่มาก โดรนตัว 1 แสนกว่า อย่างหนองคาย 10 ล้านก็พอได้ รัฐบาลจัดนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย

ที่ จ.สุพรรณบุรี บ้านใหญ่ศิลปอาชา ก็มีสีสันน่าสนใจ “ตั้ม” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายบุญชู จันทร์สุวรรณ ผู้สมัครนายก อบจ.สุพรรณบุรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายบุญชูที่โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 3 อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี กล่าวตอนหนึ่งว่า เหตุผลเดียวที่ทำให้นายบุญชูต้องมาลงสมัครในนามอิสระ เพราะต้องลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ไปเมื่อเดือน พ.ค. 2567 เนื่องจากถูกพรรค ชทพ.เตะออกมา หันไปเปิดตัวและสนับสนุนผู้สมัครอีกคนแทน โดยไม่สนใจคำสั่งเสียของนายบรรหารที่บอกไว้ว่า “อย่าทอดทิ้งอาบุญชู”

“ก่อนหน้าที่นายบุญชูจะลงสมัคร มีนักการเมืองดังในจังหวัดโทรฯ มาขอพวกของผมที่เป็นแกนนำเสื้อแดงว่าอย่าลงพื้นที่มาช่วยนายบุญชู แต่วันที่ 19 ธ.ค. 2567 พรรค ชทพ.อนุมัติให้ผู้สมัครคนหนึ่งใช้โลโก้พรรคลงสมัครเลือกตั้งนายก อบจ. ในครั้งนี้ ซึ่งเมื่ออีกฝ่ายเสียสัตย์ ผมและแกนนำเสื้อแดงจึงตัดสินใจลงมาช่วยนายบุญชูหาเสียงแบบเต็มตัว จากการลงพื้นที่หาเสียงช่วยนายบุญชู มีชาวบ้านร้องเรียนเรื่องทุจริตเข้ามาเยอะ ได้ข่าวว่า อีแอบเริ่มทำงาน ยังพบอีกว่ามีใครบางคนร่ำรวยผิดปกติ เราจะเดินหน้าตามความคืบหน้าคดีหมูเถื่อน หาต้นตอ เปิดหน้านายทุนที่อยู่เบื้องหลัง

งบประมาณพันกว่าล้านของ จ.สุพรรณบุรี ไม่ใช่ไอติมที่จะให้ใครมาแอบดูดแอบเลียไปง่าย ๆ จ.สุพรรณบุรี โดยเฉพาะที่อำเภอด่านช้าง มีปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิเกือบทั้งอำเภอ การเมืองระดับชาติในพื้นที่ไม่ทำงาน การบริหารงานใน จ.สุพรรณบุรี ที่ผ่านมา ชาวบ้านรู้ดีว่าใครเป็นคนขับเคลื่อน ขอคนสุพรรณบุรีช่วยนายบุญชูอีกครั้งเพื่อเป็นการบอกให้โลกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสุพรรณบุรี ถึงเวลาแฉบางตระกูล บางพรรค ให้ล่อนจ้อน” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

สำหรับภารกิจของนายกฯ อิ๊งค์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในสัปดาห์นี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ จะเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 (WEF Annual Meeting 2025: WEF AM25) ระหว่างวันที่ 20-25 ม.ค. 2568 ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส โดยการประชุม WEF AM25 จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 55 ภายใต้หัวข้อหลัก “Collaboration for the Intelligent Age” เพื่อหารือเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูง ให้เกิดคุณประโยชน์สูงสุดในการสนับสนุนการค้าการลงทุนซึ่งจะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ในบริบทของสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันที่สลับซับซ้อนและท้าทาย

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า นายกฯ จะใช้เวที WEF แสดงวิสัยทัศน์และนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ย้ำศักยภาพและความพร้อมของไทยที่จะขับเคลื่อนไปสู่ยุคดิจิทัล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และขยายโอกาสของภาคเอกชนไทยในตลาดโลก เนื่องจากการประชุม WEF จะมีการพบหารือทวิภาคีระหว่างผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐ องค์การระหว่างประเทศ และผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำของโลกโดยเฉพาะจากภูมิภาคยุโรป

“รัฐบาลยังประสบความสำเร็จในการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association: EFTA) จะลงนามในวันที่ 23 ม.ค.นี้ ในการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส นายกฯ จะร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงดังกล่าว FTA ไทย – EFTA ถือเป็น FTA หรือข้อตกลงทางการค้า ฉบับแรกที่ไทยทำกับกลุ่มประเทศในยุโรป ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ โดยถือเป็น FTA สมัยใหม่ที่มีข้อตกลงที่ครอบคลุมอย่างรอบด้าน มีมาตรฐานสูง

ทำให้ปัจจุบัน ไทยมี FTA ทั้งหมด 16 ฉบับ กับ 23 ประเทศ เขตเศรษฐกิจ ไทยและ EFTA มีมูลค่าการค้าในช่วงเดือน ม.ค.–พ.ย. 2567 รวมกว่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 24.94% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.อัญมณีและเครื่องประดับ 2.นาฬิกาและส่วนประกอบ 3.เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 4.อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และ 5.เครื่องใช้สำหรับเดินทาง FTA ช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าให้มากขึ้น”

ด้านการท่องเที่ยวก็น่ายินดี “นายกฯ อิ๊งค์” โพสต์เฟซบุ๊กว่า “อีกหนึ่งเรื่องน่ายินดีวันนี้ของคนไทย นิตยสาร Time Out เปิดผลสำรวจนักท่องเที่ยวราว 20,000 คน กรุงเทพมหานคร ติดอันดับ 2 ของเมืองที่ดีที่สุดในโลกของปี 2025 จากทั้งหมด 50 เมือง จากผลสำรวจพบว่า อาหารไทย และวัฒนธรรมไทย เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลงรักและอยากกลับมาอีก นี่คือเสน่ห์ไทย แน่นอนว่ารัฐบาลจะเดินหน้าเพื่อพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯ แต่อีกหลายจังหวัดทั่วไทย ให้นักท่องเที่ยวมาแล้วพำนักอาศัยนานขึ้น มาแล้วไม่ได้อยู่แค่ในกรุงเทพฯ แต่ขยายการท่องเที่ยวสู่หลายๆ เมืองน่าเที่ยว หรือ Hidden Gems ทั่วไทย เน้นสร้างกิจกรรม หรือ Man Made Tourism ให้มากขึ้น ทั้งหมดนี้จะต้องควบคู่ไปกับการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และการเดินทางที่จะต้องสะดวกสบาย ด้วยนโยบาย Ease of Travelling

วาระการประชุมวุฒิสภา 20 ม.ค. จะมีวาระที่ สว.ต้องให้ความเห็นชอบ นายประภาศ คงเอียด อดีตอธิบดีกรมบัญชีกลางและอดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. แทน พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ 70 ปี ซึ่งใช้เวลาสรรหายาวนาน 2 ปี และครั้งนี้เป็นการเลือกครั้งที่ 3 หลังจากก่อนหน้านี้ กมธ.วิสามัญพิจารณาตรวจสอบประวัติ เสนอชื่อ “บิ๊กเจ้า” พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง มาเป็น ป.ป.ช.แต่วุฒิสภาไม่เห็นด้วย ในการสรรหาครั้งที่ 2 ไม่มีใครได้คะแนนเกิน 2 ใน 3 จากกรรมการสรรหา

จนมาครั้งที่ 3 กมธ.สรรหา จึงได้เลือกนายประภาศ และส่งให้วุฒิสภารับรองต่อไป หากไม่รับรองก็ต้องเลือกใหม่อีกครั้งหนึ่ง.

“ทีมข่าวการเมือง”